ตั้งเป้าหมายชีวิต…เมื่อคิดจะหยุดทำงาน

ตั้งเป้าหมายชีวิต…เมื่อคิดจะหยุดทำงาน

โดยที่ปรึกษาด้านวางแผนการเงิน A – life Plan

บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

alife.planner@localhost โทร. 02-648-3333
 

“The greater danger for most of us is not that our aim is too high and we miss it, but that it is too low and we reach it.”
"สิ่งที่อันตรายที่สุดไม่ใช่ตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินไป แต่คือการตั้งเป้าหมายที่ต่ำเกินไปต่างหาก"

          สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ในวันนี้ผมขอเริ่มต้นด้วยคำกล่าวของ ไมเคิลแองเจลโล (Michelangelo) ซึ่งเป็นคำกล่าวที่น่าทึ่งมากๆ ในเรื่องของการตั้งเป้าหมายในชีวิต โดยทำให้เรากลับมาคิดถึงตัวเองว่า เราอยู่ในกลุ่มใดระหว่าง “ตั้งเป้าหมายสูง” และ “ตั้งเป้าหมายต่ำ” หรือ “ไม่เคยได้ตั้งเป้าหมายอะไรเลย” แล้วท่านผู้อ่านอยู่ในกลุ่มใดกันครับ
 
          ไม่ว่าท่านจะอยู่ในกลุ่มใดก็ตาม ผมอยากแนะนำให้ท่านลองตั้งเป้าหมายและให้คำมั่นสัญญากับตัวเองตามที่ตั้งไว้ครับ ผมไม่แน่ใจว่าท่านเห็นด้วยกับผมหรือไม่นะครับกับคำกล่าวที่ว่า “เป็นไปไม่ได้เลย ที่เราจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ในขณะที่ยังไม่เห็นเป้าหมาย” ซึ่งหมายความว่า เราจะไปสู่สิ่งที่เราหวังไม่ได้เลย หากเรายังไม่มีจุดหมายที่เราจะไป เหมือนกับการที่เราออกเดินทางไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมายแล้วเราจะทราบได้อย่างไรครับว่าเราถึงจุดนั้นแล้ว โดยประเด็นในวันนี้ผมอยากให้ท่านผู้อ่านได้ลองตั้งเป้าหมายว่า “เราคิดจะหยุดทำงานได้เมื่อใด” ครับ ลองตั้งเป้าหมายดูนะครับ ซึ่งในระหว่างนี้ผมขอแนะนำว่าหากวันหนึ่งเราคิดที่จะหยุดทำงาน เราจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง  
 
          ประการแรก : วางแผนและทำตามแผนให้เร็ว ในปัจจุบันหลายคนอยากหยุดทำงานเร็ว อยากเกษียณอายุเร็ว เพราะหลายคนเมื่อไปทำงานแล้วก็รู้สึกเบื่อ รู้สึกทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเพราะงาน เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือ ลูกน้อง ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายสาเหตุครับ แต่ก่อนที่จะเบื่อนั้น ผมขอแนะนำว่าเราจะต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า หากเราหยุดทำงานแล้ว เราต้องการมีชีวิตแบบใด มีคุณภาพชีวิตดีแค่ไหน ซึ่งส่งผลต่อเงินที่จะต้องเก็บสะสมและไปสู่การลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากพอต่อการใช้ชีวิตตามที่เราต้องการ โดยเรื่องการวางแผนหรือวางเป้าหมายนั้น ท่านจะต้องทำทันที เพราะทำเร็วเท่าไรก็จะประสบความสำเร็จและไปสู่เป้าหมายได้เร็วเท่านั้นครับ
 
          ประการที่สอง : เก็บเงินให้มากที่สุดและนำเงินออมไปลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับการเก็บเงินให้ได้มากที่สุดทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะหารายได้เพิ่มโดยการทำงานเพิ่ม หรือการลดค่าใช้จ่ายก็ได้ครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถ ความถนัดของแต่ละท่าน แต่สิ่งสำคัญไปกว่านั้น คือการนำเงินที่เราเก็บสะสมไปลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในตรงจุดนี้ท่านต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องการลงทุน ความเสี่ยงในการลงทุนและผลตอบแทนเป็นอย่างดีนะครับ แต่หากคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยาก หรือไม่มีเวลาในการจัดการในตรงส่วนนี้ ปัจจุบันมีหลากหลายสถาบันการเงิน รวมถึง A-LIFE ที่สามารถช่วยท่านได้ โดยท่านผู้อ่านสามารถขอคำแนะนำเรื่องการวางแผนทางการเงิน จากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินโดยเฉพาะครับ แบบนี้ชีวิตของท่านก็สามารถมีทิศทางได้ไม่ยากเพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแบบส่วนตัวครับ
 
          ประการที่สาม : ห้ามนำเงินเก็บไปใช้อย่างอื่นนอกจากวัตถุประสงค์ที่วางเอาไว้ ซึ่งหมายความว่าเราต้องทำตามแผนอย่างเคร่งครัด เงินที่จัดสรรไว้สำหรับวัตถุประสงค์ใดก็ต้องเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ตามแผนเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เราจะไม่เอาเงินออมสำหรับการเกษียณอายุของตัวเองไปใช้เป็นค่าเล่าเรียนลูก แม้ว่าการศึกษาเล่าเรียนของลูกจะมีความสำคัญมากก็ตาม แต่ทั้งนี้เราจะต้องวางแผนเรื่องค่าศึกษาเล่าเรียนของลูกไว้ในแผนทางการเงินของเราตั้งแต่แรกครับ หรือ หลายคนมักจะเอาเงินจำนวนนี้ไปทำธุรกิจส่วนตัว แบบนี้ก็ไม่ถูกต้องนะครับ เพราะหากเราทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จแล้วจะทำให้เราไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้น หากเรามีความประสงค์ที่จะทำธุรกิจ เราจะต้องทำแผนการเงินสำหรับส่วนนี้เอาไว้เลยครับ
 
          ประการสุดท้าย : เตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินให้เพียงพอ ในส่วนนี้ถือว่าสำคัญมากเช่นกันครับ เพราะในระหว่างที่ทุกท่านพยายามเก็บออมเงินเพื่อนำไปลงทุน โดยคิดว่าจะได้มีเงินใช้ในวันข้างหน้าที่หยุดทำงาน แต่หลายท่านก็ลืมคิดถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย โดยเฉพาะการที่เรามีอายุมากขึ้น ยิ่งจะมีโอกาสเจ็บป่วยมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการรักษาสุขภาพให้ดี และหมั่นออกกำลังกายครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุนั้นเป็นสิ่งที่เราห้ามมันไม่ได้จริงๆ ครับ เราจึงมีความจำเป็นต้องวางแผนโดยกันเงินส่วนนี้เอาไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงในค่าใช้จ่ายฉุกเฉินด้วยครับ หรืออีกวิธีหนึ่งที่ผมอยากแนะนำคือการซื้อประกันเอาไว้ ซึ่งสามารถทำให้ท่านอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นครับ
 
          สุดท้ายนี้ผมขอฝากถึงท่านผู้อ่านทุกท่านว่า ในการกำหนดเป้าหมายของชีวิตนั้นต้องรอบคอบและเหมาะสม หลายคนอาจจะกลัวในการตั้งเป้าหมายไว้สูงเพราะกลัวไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ในมุมของผมนั้น ผมอยากบอกท่านผู้อ่านว่า  “การตั้งเป้าหมายไว้สูงแล้วไปไม่ถึง บางครั้งสิ่งที่ได้รับมานั้นยังมากกว่า การตั้งเป้าหมายไว้ต่ำแล้วประสบความสำเร็จนะครับ” สำหรับวันนี้สวัสดีครับ