เมื่อคนวัยเยาว์ เค้าวางแผนการเงิน
โดย ทีีี่ปรึกษาด้านวางแผนการเงิน A – life Plan สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนเมษายนกันแล้วนะคะ หลังจากที่หลายๆท่านได้หยุดเที่ยวพักผ่อนยาวกับเทศกาลสงกรานต์กันแบบอิ่มเอมใจไปแล้ว ใครที่มีบุตรหลานอยู่ในวัยเรียน ก็จะเป็นที่ทราบและเข้าใจกันดีว่า เรากำลังจะเริ่มเข้าสู่อีกหนึ่งเทศกาลประจำปีแล้ว โดยเทศกาลที่ว่านี้ ไม่ใช่วันหยุดพักผ่อนหย่อนใจแต่อย่างใดนะคะ แต่มันคือ “เทศกาล Back to School” ซึ่งพูดได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาที่แต่ละครอบครัว โดยเฉพาะบรรดาคุณแม่ทั้งหลายจะหัวฟูเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความรีบเร่งวุ่นวาย แต่ถึงจะรีบเร่งแค่ไหนก็ยังแฝงไปด้วยความสุขใจอยู่เสมอนะคะ โดยหลังจากที่เหล่าบรรดาพ่อแม่ต้องรับหน้าที่อันใหญ่หลวงในการดูแลลูกๆ แทนครูบาจารย์ตลอดช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ก็คงจะนึกภาพตามได้ทันทีนะคะ ว่าหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่กล่าวถึงนี้คืออะไร แต่หากท่านใดที่ยังไม่เคยมีลูกมีหลาน หากมีเวลาว่าง อยากให้ลองไปสังเกตุสีหน้าท่าทาง รวมถึงอัปกริยาของคุณแม่ทั้งหลายที่กำลังส่งลูกเข้าโรงเรียนในช่วงเช้าของการเปิดเทอมวันแรกดู ท่านจะได้เห็นรอยยิ้มแห่งความสุขเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้า ประหนึ่งว่าวันนั้นเป็นวันประกาศอิสรภาพของบรรดาผู้ปกครองเลยทีเดียวค่ะ แต่ถึงจะแอบยิ้มดีใจกันอย่างไรก็ตาม ก็ยังจะคงมีคุณพ่อคุณแม่อีกกลุ่มหนึ่งที่แอบเหงาและเศร้าอยู่เหมือนกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยนัวเนียพันตัวอยู่ด้วยกันทั้งวัน แต่พอเปิดเทอมก็ต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน ก็เลยทำให้เกิดอาการซึมกันไปบ้างเล็กน้อยเป็นธรรมดา เมื่อผู้เขียนฟังแล้วก็ถึงกับอึ้งเป็นรอบที่สอง และหันไปบอกกับลูกว่า ดีใจที่ลูกมีความตั้งใจที่ดีในการเก็บเงินเพื่อเป็นของขวัญให้กับคุณพ่อคุณแม่ มากน้อยไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ ความตั้งใจที่จะให้มากกว่า และจากของขวัญชิ้นนี้เอง ทำให้ผู้เขียนทราบว่า สิ่งที่เราทำในฐานะพ่อแม่ ทั้งคำพร่ำสอนลูก ไม่ว่าจะในรูปแบบของเรื่องเล่านิทาน หรือจากประสบการณ์ของเราเองนั้น มันไม่ได้เป็นการสูญเปล่า เด็กๆสามารถรับรู้และนำไปคิดต่อจนถึงขั้นนำมาปฏิบัติ โดยที่เราก็ไม่ต้องไปบังคับแต่อย่างใด แม้ว่าในบางเรื่องเราอาจต้องมีการสอนเพิ่มหรือพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจใหม่ที่ถูกต้องมากขึ้น เช่น ในเรื่องที่มาของเงิน ที่ลูกเราแอบไปคิดเงินค่าสอนการบ้านเพื่อน ซึ่งผู้เขียนก็จะสอนและชวนให้มองอีกมุมหนึ่งเหมือนกันว่า หากเราสอนเพื่อนโดยไม่คิดเงิน เพื่อนอาจจะรู้สึกดีมากกว่า และเราเองก็จะสามารถเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ได้อีกทาง ซึ่งเป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้ โดยลูกสาวก็สัญญาว่าจะนำไปปฏิบัติตาม แต่แอบหยอดท้ายนิดนึงว่า “แต่หนูไม่ได้เก็บทุกคนนะคะ คนไหนเรียบร้อย หนูไม่คิดเงิน … แต่คนไหนซ่าส์ เล่นเกมส์ ไม่สนใจเรียน หนูต้องคิดค่ะ “.. ฟังแล้วก็ยิ้มในใจว่า ยังแอบมีคุณธรรมเล็กน้อยนะเนี่ยลูกเรา สุดท้ายนี้ ผู้เขียนก็หวังว่าบทความในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่กำลังมีบุตรหลานอยู่ในวัยเยาว์และต้องการสอนให้เค้าเกิดมุมมองที่ดีในเรื่องการวางแผนการเงินกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีค่ะ
|