แผนการเงินลูกกตัญญู

  แผนการเงินลูกกตัญญู

โดย ทีีี่ปรึกษาด้านวางแผนการเงิน A – life Plan
บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
alife.planner@localhost โทร. 02-648-3333

                สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน ใกล้จะถึงเทศกาลวันแม่แห่งชาติกันแล้วนะคะ ซึ่งปีนี้วันที่ 12 สิงหาคม 2558 ตรงกับวันพุธ กลางสัปดาห์พอดีเลยค่ะ ท่านผู้อ่านมีการวางแผนที่จะพาคุณแม่ (และแน่นอน คุณพ่อ) ไปเฉลิมฉลองเพื่อทดแทนพระคุณของท่านที่ไหน อย่างไรบ้างคะ และหากช่วงนี้ถ้าสังเกตดีๆ เราจะพบว่ามีแคมเปญโปรโมชั่นวันแม่ออกมามากมาย มีทั้งที่เอาใจคุณแม่นักช้อปโดยบรรดาห้างร้านต่างๆ ก็จะจัดลดแลกแจกแถม เพื่อคุณแม่โดยเฉพาะตลอดเดือนสิงหาคม หากเป็นคุณแม่ขาลุย ชอบท่องเที่ยว เราก็จะพบเห็นโปรโมชั่นบริษัททัวร์ ประเภทจัดหนัก พักสบาย ไปกับเรา ที่พร้อมพาไปทริปทั้งในและนอกประเทศมา 3 จ่าย 2 นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญที่เน้นเอาใจคุณแม่นักปฏิบัติธรรม โดยจะเน้นพาคุณแม่เสริมสิริมงคลให้ตัวเองโดยการไหว้พระ 9 วัด ซึ่งมีหลายจังหวัดด้วยกันที่นิยมไปกัน เช่น กรุงเทพฯ อยุธยา สุพรรณบุรี สิงห์บุรี การไหว้พระนอกจากจะได้พาคุณแม่เที่ยวแล้ว ยังได้ทำบุญอีกด้วยนะคะ
 
                ส่วนตัวผู้เขียนเอง ที่ปัจจุบันมีสถานะหน้าที่ 2 อย่างควบคู่กัน คือ เป็นทั้งลูกของแม่ และ แม่ของลูก ในวันนี้จึงจะขออนุญาตนำอีกหนึ่งเรื่องราวความกตัญญูรู้คุณพระคุณแม่ในบางแง่ บางมุมของบุคคลคนหนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมต้อนรับเทศกาลวันแม่ในเดือนหน้ากันซักนิดนะคะ 

                เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้วหากท่านผู้อ่านจำได้ เราจะได้ยินข่าวคราวของ ชิว อี้ซง หนุ่มตี๋ลูกกตัญญูวัย 27 ปีจากมณฑลเหอเป่ย ที่ตัดสินใจทุ่มเงินค่าชดเชยที่ได้จากอุบัติเหตุ จนเขาต้องสูญเสียขาไปข้างหนึ่งพาแม่เที่ยวทั่วประเทศเพื่อใช้ชีวิตกับแม่ให้คุ้มค่า โดยเขานำเงินชดเชยที่ได้ไปซื้อรถ และวางแผนพาแม่เที่ยวให้ทั่วแผ่นดินใหญ่ เขาตั้งใจที่จะใช้เวลาอยู่กับแม่ให้มีค่ามากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้  และทุกครั้งที่ไปเที่ยว เขาก็ทำการถ่ายภาพ บันทึกวิดีโอแม่ไว้ตลอดทาง และเมื่อเจอเพื่อนใหม่ระหว่างทาง เขาก็จะให้คนเหล่านั้นเขียนโน็ตลงบนหนังสือของเขาเก็บไว้เป็นที่ระลึก ในระยะแรกๆ บรรดาญาติและเพื่อนฝูง รวมทั้งคุณแม่ของเขาไม่เห็นด้วยกับการใช้เงินของเขา ต่างแนะนำให้เขาหางานทำ และนำเงินที่ได้ไปซื้อบ้าน แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะทำตามพร้อมให้เหตุผลว่า “แผนอื่นๆในชีวิตเขาเลื่อนออกไปได้ แต่เวลาจะได้อยู่กับแม่ต่างหาก…มันเหลือน้อยลงทุกที” และ “ผมควรใช้เวลากับแม่ … พาแม่ไปที่สวยๆ ตั้งแต่ตอนที่ผมยังหนุ่ม เมื่อผมแก่ตัวลง ประสบการณ์นี้จะเป็นสมบัติในชีวิตของผม”

                หลายท่านเมื่ออ่านจบ อาจจะมองว่าการกระทำของ ชิว อี้ซง นั้นไม่น่าจะเหมาะสม บางคนเป็นห่วงว่าเขาจะใช้เงินที่ได้มาจนหมด และต้องกลับไปใช้ชีวิตที่ลำบากยิ่งขึ้นอีกครั้งในขณะที่ร่างกายก็พิการ ไม่ได้สมบูรณ์เหมือนเดิม ขณะที่บางท่านเมื่ออ่านจบ รีบวางแผนพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวบ้างก่อนที่จะสายเกินไป ซึ่งผู้เขียนเองก็มีความเห็นว่าไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด ทุกเรามีสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตของตนเอง เลือกการหาความสุขใส่ตัวเองตามแบบที่ต้องการ แต่ถ้าในแง่มุมของนักวางแผนการเงินแล้ว ก็อยากจะขออนุญาตแสดงความเห็นถึงนายชิว อี้ชง นิดหนึ่งว่าให้เดินทางสายกลาง พร้อมจัดสรรเงินที่ได้รับมาคร่าวๆ ง่ายๆ ดังนี้ 
       
1. อยากให้นายชิว อี้ชง นำเงินที่ได้มา ไปเคลียร์หนี้สินที่มีอยู่ให้เรียบร้อยเสียก่อน
2. อยากให้นายชิว อี่ชง กันเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินออม และนำไปลงทุนให้มีดอกผล ไว้ใช้กับคุณแม่ในอนาคต
3. ส่วนที่เหลือ ก็ค่อยพาคุณแม่ไปท่องเที่ยวอย่างสบายใจ กลับมายังมีเงินใช้ ไม่ลำบาก
4. ข้อสุดท้าย Last but not least อยากจะแนะนำให้ นายชิว อี้ชง และคุณแม่ ซื้อประกันภัยการเดินทางด้วยนะคะ เพราะในระหว่างการเดินทางอาจเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นได้เสมอ และนำมาซึ่งความสูญเสียหรือเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงประเมินค่ามิได้

                เห็นไหมคะ แบบนี้น่าจะจบได้แบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ครอบครัวหมดหนี้ มีตังค์เหลือใช้ แถมคุณแม่ยังได้ท่องเที่ยวอีกต่างหาก สุดท้ายไม่ว่าท่านผู้อ่านจะพาคุณแม่ไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม การวางแผนล่วงหน้าทั้งโปรแกรมเที่ยว เดินทางอย่างไร พักที่ไหน และงบประมาณค่าใช้จ่าย เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะช่วยให้การพาคุณแม่เที่ยวในวันแม่เป็นไปอย่างราบรื่น และเป็นทริปท่องเที่ยวของคุณแม่ที่น่าประทับใจ ผู้เขียน อยากให้ท่านผู้อ่านได้ใช้เวลาทุกวินาที ให้มีค่ามากที่สุดดูแลคนที่เรารัก คนที่เราแคร์มากที่สุด  เพราะวันเวลาที่ผ่านเลยไปในแต่ละวัน ไม่มีทางที่จะเรียกคืนมาได้ ที่สำคัญ อย่าลืมบอกรักคุณแม่ด้วยนะคะ