วางแผนการเงิน…แค่คิดชีวิตก็เปลี่ยน

คอลัมน์ Money DIY 4.0 ทาง นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 22 – วันพุธที่ 25 มกราคม 2560

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกับบทความทางการเงินดีๆ โดยผม ธัญญะ ซื่อวาจา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ที่จะมานำเสนอสาระความรู้เรื่องการวางแผนการเงินในแง่มุมต่างๆ ให้ทุกท่านได้ลองนำไปปรับใช้เพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงินให้กับตัวท่านเองครับ สำหรับเริ่มแรกวันนี้ผมอยากจะให้ทุกท่านได้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนการเงินกันเสียก่อนว่าเพราะอะไรเราจึงควรที่จะต้องวางแผนทางการเงิน

โดยถ้าผมมีคนสองคนให้ท่านผู้อ่านเลือกที่จะเป็นระหว่างนายเรื่อยเปื่อย คติประจำใจ “จนแล้วมีความสุข” กับนายวางแผน คติประจำใจ “รวยแล้วมีความสุข” ท่านผู้อ่านอยากจะเป็นใครครับ แน่นอนความรวยอาจจะไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง แต่เชื่อผมเถอะครับถ้าให้เลือกได้คนส่วนใหญ่ก็คงอยากที่จะเลือก “รวยแล้วมีความสุขอย่างแน่นอน” นั่นก็เป็นเพราะคนเรามีความต้องการที่ไม่เหมือนกันและไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้มีความหลากหลายแตกต่างกัน มีขนาดไม่เท่ากันและต้องการเวลาไม่เท่ากัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกเป้าหมายต้องใช้เหมือนๆ กันนั่นก็คือ “เงิน” ซึ่งการจะได้เงินมาเพื่อให้บรรลุ “เป้าหมาย” นั้น มีความยากง่ายไม่เท่ากันสำหรับทุกคนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ซึ่งหากเราไม่มีการวางแผนไปสู่เป้าหมายให้ชัดเจนอาจจะทำให้เราไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเหล่านั้นได้ หรืออาจจะทำได้แต่ใช้เวลานานเหลือเกิน แต่เราจะสามารถจัดการกับเป้าหมายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย “การวางแผนการเงิน” เพราะ “การวางแผนการเงิน แค่คุณคิดชีวิตก็จะเปลี่ยน” วางแผนการเงินดีอย่างไรและทำไมเราต้องวางแผนการเงิน โดยผมมี 4 ข้อดีง่ายๆ มาบอกทุกท่านว่าทำไมเราต้องเริ่มที่มาวางแผนการเงินกันได้แล้ว

ข้อที่หนึ่ง : การวางแผนการเงินช่วยให้เรารับมือกับความไม่แน่นอน ความไม่แน่นอนนั้นเกิดขึ้นได้เสมอกับพวกเราทุกคนทั้งในเวลาหลับหรือเวลาตื่น ในวัยเด็ก วัยรุ่น วัยสร้างครอบครัว หรือวัยชรา ดังนั้นการวางแผนการเงินจึงเป็นเหมือนการเสริมสร้างสุขภาพทางการเงินของเราให้แข็งแรงและพร้อมรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด ยิ่งหากเรามีการวางแผนการเงินที่ดีมากเท่าไร ภูมิคุ้มกันความเสี่ยงของเราก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น เรียกได้ว่าการวางแผนการเงินจะช่วยให้เราสามารถผ่านความไม่แน่นอนไปได้ด้วยความมั่นใจนั่นเอง

ข้อที่สอง : การวางแผนการเงินช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย ด้วยความที่เราแต่ละคนมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน จึงส่งผลให้รูปแบบความต้องการในการใช้เงินต่างกันไป การวางแผนการเงินจะเข้ามาช่วยให้จังหวะ “เงิน” ของเราสอดคล้องกับทุกจังหวะของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นตอนวัยเด็กเราก็อยากได้ของเล่นแพงๆ อาหารดีๆ ตอนเข้าสู่วัยทำงานเราก็อยากได้รถ อยากได้บ้านหลังใหญ่ๆ พอเริ่มสู่วัยครอบครัวหลายๆ คนก็อยากแต่งงาน อยากมีลูก อยากให้ลูกได้เรียนสูงๆ หรืออยากส่งลูกไปเรียนเมืองนอก และพอเริ่มแก่ตัวเราก็อยากเกษียณแบบสบายๆ มีเงินใช้จ่าย ไปท่องเที่ยว โดยไม่อยากเป็นภาระให้กับลูกหลาน ซึ่งการวางแผนการเงินจะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆ เหล่านี้ได้

ข้อที่สาม : การวางแผนการเงินช่วยให้เราเอาชนะเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อหรือพูดง่ายๆ ก็คือ ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นทุกปีไม่ว่าจะเป็นราคาอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น โดยทั่วไปแล้วเงินเฟ้อจะมีอัตราอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี ในขณะที่เราจะสังเกตเห็นได้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ในปัจจุบันอยู่ที่เพียงแค่ประมาณ 0.65% – 2.75% ทำให้เงินออมของเราสูญเสียมูลค่า 0.25% – 2.35% ต่อปี หรือยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ เงินฝาก 10,000 บาทของเราในปีนี้จะเหลือมูลค่า 9,975 – 9,765 บาทในปีถัดไป (อัตราเงินเฟ้อ 3%) ทั้งนี้วิธีที่เราจะสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ก็ด้วยการวางแผนการเงิน เพื่อที่จะนำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อนั่นเองครับ

ข้อที่สี่ : การวางแผนการเงินช่วยสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้คนเรามีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น โดยเฉลี่ยของคนไทยแล้วผู้ชายจะอยู่ที่ประมาณ 70 ปี และผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 75 ปี จึงทำให้เราต้องการความมั่นคงทางการเงินยิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพื่อที่จะได้มีกำลังดูแลตัวเองในช่วงชีวิตหลังเกษียณอายุนั่นเอง ลองคิดดูครับว่าหากเราไม่มีการวางแผนทางการเงินที่ดีเราจะใช้ชีวิตอยู่หลังจากเกษียณอายุแล้วอย่างไรเมื่อรายได้ประจำนั้นหายไปแต่รายจ่ายยังเท่าเดิม ซึ่งการวางแผนการเงินที่ดีจะทำให้เราสามารถคำนวณและวางแผนระยะยาวเพื่อชีวิตเกษียณตามที่เราต้องการได้

จะเห็นได้ว่าการวางแผนการเงินนั้นเป็นการทำเพื่อตัวของเราเองและเพื่อคนที่คุณรัก โดยหากเรามีการวางแผนการเงินที่ดีเราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและดูแลคนรอบข้างได้อย่างมั่นใจ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและรับมือกับความไม่แน่นอนในชีวิตได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นสำหรับท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านที่ยังไม่ได้เริ่มที่จะวางแผนการเงินหรือเริ่มวางแผนการเงินแล้วแต่ยังไม่จริงจัง เริ่มต้นปีใหม่นี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ทุกท่านจะได้ศึกษาและลงมือทำเพราะ “วางแผนการเงิน…แค่คิดชีวิตก็เปลี่ยน” แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครังหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ