วางแผนไม่เป็น “หนี้”

วางแผนไม่เป็น “หนี้”

 

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันเป็นประจำกับ Money Tips & Tricks คอลัมน์ที่จะมานำเสนอสาระความรู้ และเรื่องราวทางการเงินดีๆ ให้กับท่านผู้อ่านทุกท่านเป็นประจำทุกสัปดาห์นะคะ  โดยเรื่องที่อยากจะนำมาแชร์ให้ทราบกันในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาระหนี้สินที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดนั่นเองค่ะ เผื่อว่าท่านผู้อ่านท่านไหนบังเอิญได้มาอ่านบทความจะได้เก็บกลับไปคิดพิจารณากันอีกครั้ง ว่าการยืมเงินในอนาคตมาใช้นั้นเป็นผลดีหรือผลเสียกับตัวเรากันแน่ เนื่องจากคนส่วนใหญ่เวลามีความต้องการที่จะใช้เงินก็มักจะมองข้ามในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ทางสถาบันการเงินต่างๆ นั้นเรียกเก็บกับผู้ใช้ ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวแถมยังมีการจูงใจด้วยการให้ผ่อนชำระหนี้ขั้นต่ำได้เพียงแค่ 5 – 10% ของยอดเงินที่เรียกเก็บเท่านั้น ซึ่งเมื่อมองดูเผินๆ แล้วดูจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่สูงเลย แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อผ่อนชำระไปได้สักระยะแล้ว แต่จำนวนยอดหนี้ที่เรียกเก็บมากลับไม่ลดลงเท่าไหร่ เลยต้องติดหนี้ติดสินกันเป็นภาระยาวนานอยู่หลายปี

โดย Money Tips & Tricks จะพาผู้อ่านทุกท่านมาสำรวจดูกันว่าประเภทของการยืมเงินในอนาคตมาใช้นั้น เค้ามีการคิดค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยเรียกเก็บจากบัตรต่างๆ กันอย่างไรบ้าง

  1. การรูดบัตรเครดิตการ์ด ส่วนใหญ่หากมีการใช้วงเงินไปแล้ว เมื่อถึงรอบที่ต้องชำระเงินคืน แต่เราไม่สามารถชำระคืนได้ หรือชำระคืนได้แค่เป็นบางส่วน ทางสถาบันการเงินนั้นๆ จะมีการคิดค่าธรรมเนียมในการใช้บัตร และดอกเบี้ยอยู่ที่อัตราร้อยละ 20 ต่อปี โดยคำนวณจากวงเงินในวันแรกที่มีการใช้บัตรไป
  2. การถอนเงินสดจากบัตรเครดิตการ์ด  หากเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินสดแบบฉุกเฉินบัตรเครดิตการ์ดก็สามารถตอบโจทย์ได้ดี โดยผู้ถือบัตรสามารถถอนเงินสดออกจากบัตรตามวงเงินสดที่แต่ละสถาบันกำหนดมาให้ แต่ก็เช่นกันเมื่อถึงรอบที่ต้องชำระเงินคืนแต่เราไม่สามารถชำระคืนได้ หรือชำระคืนได้แค่เป็นบางส่วน ทางสถาบันการเงินนั้นๆ จะมีการคิดค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรและดอกเบี้ยอยู่ที่อัตราร้อยละ 20 ต่อปี รวมถึงค่าธรรมเนียมในการถอนเงินสดแต่ละครั้งอีก 3% โดยคำนวณจากวงเงินในวันแรกที่มีการใช้บัตรไป ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรจริงๆ ก็อย่าเพิ่งนำเงินจากวงเงินสดของบัตรเครดิตออกมาใช้กันนะคะ
  3. การถอนเงินสดจากบัตรกดเงินสด ปัจจุบันสินเชื่อเงินสดจากบัตรกดเงินสดนั้นมีมานำเสนอให้เห็นอยู่ทั่วไป พร้อมทั้งโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถมของอีกมากมาย การยื่นขออนุมัติก็ทำได้สะดวกรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีจำนวนผู้ใช้บัตรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนการคิดค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรและดอกเบี้ยนั้นจะอยู่ที่อัตราร้อยละ 20 – 28%  ต่อปี โดยคำนวณจากวงเงินในวันแรกที่มีการใช้บัตรไป ส่วนอัตราการผ่อนชำระหนี้ขั้นต่ำจะอยู่ที่ 5% เท่านั้น ทำให้ลูกหนี้หลายต่อหลายท่านขนานนามบัตรชนิดนี้ว่าเป็น “บัตรมหาเทพ” เนื่องจากมีคุณสมบัติในการสร้างภาระหนี้สินก้อนโตแบบดินพอกหางหมู ผ่อนจ่ายเท่าไหร่ยาวนานแค่ไหนก็ไม่หมดไม่สิ้นสักที

      ท่านผู้อ่านคงได้เห็นภาพรวมของมหันตภัยจากการยืมเงินในอนาคตมาใช้ ว่าการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอกและค่าธรรมเนียมนั้นเป็นอย่างไรบ้างนะคะ  เชื่อว่าท่านคงจะเห็นได้ว่า “การออมเงินไว้ซื้อของในอนาคต น่าจะดีกว่ายืมเงินในอนาคตมาใช้ซื้อของ” ดังนั้นหากท่านผู้อ่านที่กำลังอยากจะใช้เงินก้อนในอนาคต ที่ไม่ได้ใช้เพื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินใดๆ ก็คงต้องเก็บไปคิดพิจารณากันอีกครั้งแล้วนะคะ ว่ามันคุ้มค่ากับเงินหลายหมื่นบาทที่เราต้องเสียไปเพราะค่าดอกเบี้ยแสนแพงนี้หรือไม่ แล้วกลับมาพบกันใหม่ได้ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ