สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Money Tips & Tricks คอลัมน์ที่จะมานำเสนอเรื่องราวทางการเงินดีๆ ให้กับท่านผู้อ่านทุกท่านเป็นประจำทุกสัปดาห์นะคะ ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็แพงขึ้น ซึ่งรายได้ที่ท่านผู้อ่านมีอยู่อาจจะไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีการที่จะรับมือกับความฝืดเคืองเหล่านี้ ด้วย 5 วิธีที่ได้นำมาฝากท่านผู้อ่านในวันนี้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ยากและท่านผู้อ่านสามารถทำได้ เราลองมาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง
- สำรวจการใช้จ่ายของตัวเอง
ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้ว่ารายจ่ายของเรานั้นมีอะไรบ้าง และวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้รู้ว่าเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ก็คือการทำ “บัญชีรายรับ – รายจ่าย” โดยบางท่านอาจคิดว่าเสียเวลาในการทำ แต่จริงๆ แล้วการทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายจะทำให้เราได้เห็นนิสัยการใช้เงินของตัวเราเอง และเราจะเห็นว่ารายจ่ายอะไรบ้างที่จำเป็น และอะไรบ้างที่ไม่จำเป็น และเริ่มลดรายจ่ายตรงนั้นลงได้
- ลดรายจ่าย
เมื่อได้สำรวจการใช้จ่ายของตัวเองตามข้อแรกแล้ว ท่านผู้อ่านจะพบว่ารายจ่ายอะไรที่สามารถลดลงได้บ้าง อย่างเช่น ค่าเดินทาง ค่ากาแฟ ค่าช็อปปิ้ง ค่าสังสรรค์ ให้ลองลดค่าใช้จ่ายพวกนี้ดูนะคะ แล้วจะพบว่าเราจะมีเงินเหลือไปใช้อย่างอื่นได้อีกเยอะแยะเลย
- ตั้ง Budget ให้ตัวเอง
ให้ท่านผู้อ่านควบคุมรายจ่ายด้วยการตั้ง Budget ให้ตัวเองก่อนเลย ยกตัวอย่างเช่น ในเดือนนี้ตั้งงบช็อปปิ้งไว้ที่ 2,000 บาท, งบเที่ยว 3,000 บาท หรือกินอาหารแพงๆ ซัก 2,000 บาท และพยายามไม่ใช้จ่ายให้เกินไปจากงบที่เราตั้งไว้ และหากมีสิ่งของอะไรที่อยากได้เพิ่มเติมแต่เกินงบก็ให้เปลี่ยนไปซื้อในเดือนถัดไปแทน แบบนี้ก็จะทำให้เราควบคุมการใช้จ่ายของเราได้มากยิ่งขึ้น
- เพิ่มรายได้
ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าการมีรายได้ทางเดียวมันคงไม่เพียงพอแล้ว ยิ่งหากรายได้ที่เรามีอยู่มันน้อย และรายจ่ายต่างๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่สามารถลดลงได้เลยแล้วหล่ะก็ ท่านผู้อ่านยิ่งต้องมองหาวิธีที่จะเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น โดยอาจหาอะไรเล็กๆ น้อยๆ ขายในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ หรือลองเปิดร้านขายของในโซเชียลมีเดียแทน เช่น หากเรามีเสื้อผ้าเยอะซื้อมาใส่แค่ครั้งสองครั้งก็ไม่ใส่แล้ว ให้ลองเอาเสื้อผ้าพวกนั้นไปขายเป็นของมือสองแทนก็ได้ หรือใครมีฝีมือในการทำอาหาร ทำขนมก็ลองทำขายดู อะไรเล็กน้อยๆ ที่เราถนัดก็สามารถนำมาต่อยอดสร้างรายได้ให้กับเราได้ทั้งนั้น
- อย่าลืมเก็บเงิน
แม้ว่าเราจะมีรายจ่ายมากมายกองอยู่ตรงหน้า แต่ต้องอย่าลืมที่จะแบ่งสรรปันส่วนรายได้ของเราออกมาเป็นเงินเก็บบ้าง อย่างน้อยก็ประมาณ 10% ของรายได้ เพื่อเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และอาจจะนำเงินไปลงทุนในสิ่งที่ตัวเองถนัดและรับความเสี่ยงได้เพื่อต่อยอดให้มีเงินมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็น ซื้อสลากออมสิน พันธบัตรรัฐบาล กองทุน หรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีเท่าไหร่ เราก็ยิ่งต้องมีการวางแผนทางการเงินที่ดีเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เราสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และสิ่งที่นำมาฝากท่านผู้อ่านในวันนี้ก็นับว่าเป็นวิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยให้ท่านผู้อ่านบริหารจัดการเงินในกระเป๋าของท่านได้ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ อย่างไรก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ แล้วกลับมาพบกับคอลัมน์ Money Tips & Tricks กันได้ใหม่ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ