4 ทิปส์การเงินสำหรับ “คู่แต่งงาน” ใหม่

4 ทิปส์การเงินสำหรับ “คู่แต่งงาน” ใหม่

 

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกับคอลัมน์ Money Tips & Tricks ที่จะมานำเสนอสาระความรู้ และเรื่องราวทางการเงินดีๆ ให้กับท่านผู้อ่านทุกท่านเป็นประจำในทุกๆ สัปดาห์นะคะ ในช่วงเดือนแห่งความรักนี้ ก็จะมีคู่รักหลายๆ คู่ที่ใช้โอกาสนี้ในการแต่งงานเพื่อเริ่มต้นชีวิตกัน  ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ การตกลงมาใช้ชีวิตคู่กัน  นอกจากความรัก ความเข้ากันได้ในเรื่องต่างๆ แล้ว เรื่องของการเงินก็เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลย คอลัมน์ในวันนี้จึงขอนำเอาทิปส์ดีๆ ในการบริหารจัดการเงินสำหรับคู่แต่งงานใหม่มาฝากกันนะคะ กับ “4 ทิปส์การเงินสำหรับคู่แต่งงานใหม่”

  • การพูดคุยกันแบบเปิดอก เมื่อตกลงปลงใจมาใช้ชีวิตคู่กัน นั่นหมายถึงการต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา  ต้องมีการใช้เงินร่วมกัน การที่จะตัดสินใจทางการเงินฝ่ายเดียวนั้นไม่สามารถทำได้อย่างเดิมแล้ว เพราะการใช้ชีวิตคู่ก็เหมือนการวางอนาคตร่วมกัน ซึ่งต้องมีเงินเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ โดยเรื่องหลักๆ ที่ควรคุยกันคือ สถานะทางการเงิน เป้าหมายในเรื่องการเงินของแต่ละคนเป็นอย่างไร  โดยเฉพาะเรื่องการจัดการและบริหารการเงินในครอบครัว เป็นคนใช้เงินประหยัดหรือไม่ หรือเป็นคนใช้เงินมือเติบใช้จ่ายตามใจ เป็นต้น  ซึ่งเมื่อแต่งงานกันแล้ว ถือว่า เรื่องนี้ไม่ควรปิดบังกัน แต่ควรพูดคุยอย่างมีสติ หากพบเรื่องที่คุณคาดไม่ถึง ก็ค่อยๆ หาทางแก้กัน เพื่อที่จะเริ่มวางแผนการเงินในอนาคตได้อย่างมีความสุขค่ะ
  • วางเป้าหมายทางการเงินร่วมกัน  การใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างราบรื่นควรจะมีการเซ็ตเป้าหมายทางการเงินร่วมกัน และคอยเช็คแต่ละฝ่ายว่าใกล้ความจริงหรือยัง โดยอาจจะเริ่มจากสิ่งง่ายๆ เช่นการทำงบประมาณรายจ่ายแต่ละเดือนที่เป็นรายจ่ายประจำ  หลังจากนั้นแบ่งรายได้ของคุณเป็นเงินออม อย่างน้อย 20% โดยแบ่งเป็นเงินฝากฉุกเฉิน และเงินฝากยามเกษียณอย่างละครึ่ง จากนั้นลองย้อนกลับมาดูรายจ่ายของเราว่าเกิน 80% ของรายได้หรือไม่ ถ้าเกินก็ควรตัดบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกบ้าง ในกรณีที่คุณมีหนี้สิน ก็ควรลดสัดส่วนการใช้จ่ายลงเป็น 70% และแบ่งอีก 10% สำหรับใช้ชำระหนี้สิน นอกจากนี้การแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นคนจ่ายบิลต่างๆ ก็จะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการใช้จ่ายต่างๆ ลงได้ เมื่อเราสามารถประหยัดลงได้ก็สามารถนำเงินตรงนี้ไปใช้กับเรื่องจำเป็นอื่นๆ ได้อีกด้วย  นอกจากนั้น ทั้งคู่ควรคุยกันเรื่องการเงินในบ้านเป็นประจำ เพื่อดูว่า สถานะในปัจจุบัน กำลังอยู่ในหนทางสู่เป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ในตอนแรกหรือไม่
  • วางแผนซื้อบ้านหลังแรก  เมื่อแต่งงานกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คู่คงอยากมีก็คือ การมีบ้านซักหลัง เพื่อจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือภาระทางการเงินในระยะยาว จึงต้องมีการวางแผนที่ดี และสิ่งสำคัญประการหนึ่งก็คือควรเปรียบเทียบสินเชื่อบ้านให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจ และหลังจากนั้นก็ควรปรึกษากับทางธนาคารว่าภายใต้งบประมาณที่คุณสามารถจ่ายได้ต่อเดือนนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาอีกกี่ปีในการผ่อน  ซึ่งจะต้องเป็นเวลาที่คุณสามารถผ่อนได้โดยไม่เดือดร้อน และมีผลกระทบน้อยที่สุด หากคุณยังอายุน้อยและมีรายได้ไม่มากนัก ลองขอเจรจาเพื่อเพิ่มระยะเวลาให้นานที่สุดก่อน เพื่อให้ยอดเงินผ่อนต่อเดือนลดลงและลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเงินขาดมือหรือผิดสัญญาในอนาคต
  • วางแผนเพื่ออนาคตและวางแผนเกษียณ  หลายๆ คนเริ่มออมเงินตั้งแต่ทำงานใหม่ๆ  เมื่อถึงเวลาที่แต่งงานมาใช้ชีวิตคู่แล้ว ก็ควรเริ่มแบ่งบางส่วนมาทำประกันชีวิตให้ครอบคลุมบ้าง เพราะเมื่อเรามีครอบครัวที่ต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็นคู่ชีวิตหรือลูกหลาน หากเราเป็นอะไรไป คนข้างหลังก็จะได้อยู่กันได้อย่างไม่ลำบาก และควรตั้งต้นออมเงินไว้เพื่อเวลาที่เกษียณจากการทำงาน เพราะเมื่อถึงเวลานั้นเราก็จะรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งชีวิต และอยากพักผ่อนเพื่อทำในสิ่งที่อยากทำ บางคนก็อยากใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น การลงทุนจากกองทุนตามสถาบันการเงินที่เปิดไว้เพื่อออมและลงทุนเอาไว้เวลาเกษียณก็เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ไม่เลวเลย

แม้ว่าแต่ละคนจะมีวิธีใช้เงินของตัวเอง แต่เมื่อมาใช้ชีวิตร่วมกันและมีเป้าหมายร่วมกันแล้ว ก็จะช่วยกันหาเงินและเก็บเงินได้มากขึ้น เช่น วางแผนจะซื้อบ้านด้วยกัน เก็บเงินเพื่อค่าเล่าเรียนลูก หรือเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ก็ลองคุยกันแล้วช่วยกันดูว่าจะถึงเป้าเมื่อไหร่ หวังว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆ คู่ เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ถ้าจริงใจต่อกันเรื่องการเงิน ก็เป็นการวางรากฐานให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งแล้วล่ะค่ะ  แล้วกลับมาพบกันใหม่ได้ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ