วางแผนแต่งงานไม่มีสะดุด มีความสุขทั้งบ่าวสาว

วางแผนแต่งงานไม่มีสะดุด มีความสุขทั้งบ่าวสาว

 

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ต้อนรับเดือนแห่งความรักนี้ด้วยหัวข้อน่ารักๆ เกี่ยวกับการแต่งงานกันค่ะ เพราะไม่ว่าแต่ไหนแต่ไรมา การแต่งงานถือว่าเป็นเหตุการณ์ในชีวิตที่สำคัญมากๆ และยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเหตุการณ์หนึ่งเลยนะคะ โดยเฉพาะคุณผูหญิงหลายๆ ท่าน คงเคยวาดฝันกันมาแล้วว่าอยากให้งานแต่งงานออกมาในรูปแบบไหน และมั่นใจได้เลยค่ะว่า ไม่มีคู่แต่งงานคนไหน อยากให้มีปัญหาในวันแต่งงานแน่ๆ เพราะมันคงไม่สนุกและเป็นความทรงจำที่ไม่ดีเลยถุกไหมคะ จะให้กลับไปแก้ไขหรือจัดงานแต่งซ่อมก็คงไม่เหมาะแน่ๆ เพราะฉะนั้น วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ในการวางแผนเตรียมแต่งงานมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ เพื่อให้งานแต่งงานของเรานั้น ออกมาเหมือนอย่างที่เราได้ตั้งใจไว้

ข้อแรก : วางแผนเงินค่าสินสอด เรื่องสินสอดในทุกวันนี้นะคะ ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งสำหรับคู่รักหลายๆ คู่เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไป หรือแม้กระทั่งคู่รักดารา หลายๆ คู่ ที่แผนการแต่งงานต้องล่มสลายลง เพียงเพราะตกลงค่าสินสอดกันไม่ได้ หรือเรียกได้ว่า “รักแท้แพ้ค่าสินสอด” กันเลยทีเดียวค่ะ เพราะครอบครัวฝ่ายหญิงหลายๆ ครอบครัว ก็หมายหมั้นปั้นมือมาแล้วว่าเลี้ยงลูกสาวมาดั่งนางฟ้า ค่าสินสอดก็ต้องคู่ควรกันด้วย หรืออีกมุมหนึ่งคือทางครอบครัวก็เป็นห่วงลูกสาวนางฟ้าของตน จึงคิดว่าอย่างน้อยการเรียกสินสอดก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์ความพยายามของฝ่ายชายทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น การคุยกันเรื่องค่าสินสอดตั้งแต่เริ่มแรกที่คิดจะแต่งงานกัน ถือเป็นเรื่องที่ควรทำค่ะ เพื่อจะทำให้คู่รักสามารถช่วยกันวางแผนเก็บเงินค่าสิดสอดนี้ ได้ในจำนวนที่ตั้งใจไว้ และไม่มีปัญหากันทีหลังค่ะ หรือไม่หากทั้งคู่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า เงินค่าสินสอดนี้มันเกินตัวเกินไป ก็ควรเปิดอกคุยกับทางฝ่ายหญิงให้ดี คุยกันด้วยเหตุผลถึงที่มาที่ไป ควรจะอยู่ในจำนวนเท่าไรเมื่อคิดถึงหลักความเป็นจริง และความสามารถที่จะหาเงินเหล่านั้นได้ และพิสูจน์กับทางฝ่ายหญิงด้วยความรักค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คู่รักทุกคู่ สามารถก้าวผ่านเรื่องค่าสินสอดกันไปได้อย่างไม่มีปัญหานะคะ

ข้อสอง : ตั้งงบประมาณในการจัดงานแต่งงาน สาวๆ หลายๆ คน คงอยากให้งานแต่งงานของตัวเองออกมาดูดี และสวยงามถูกไหมคะ เพราะฉะนั้นเราต้องมีการวางแผนการเงินสำหรับงานแต่งให้ดี เนื่องจากทุกขั้นตอนการจัดงานแต่ง ต้องใช้เงินในการบริหารจัดการทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่าย pre-wedding ค่าการ์ด ค่าชุด ค่าจัดงานหมั้นเช้า ค่าจัดงานปาร์ตี้ตอนเย็น และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นคู่แต่งงานควรมาปรึกษาและวางแผนกันก่อนว่า อยากให้สเกลของงานตนเองออกมาขนาดไหน มีอะไรที่จำเป็น หรือไม่จำเป็นกันบ้าง เพื่อจะได้จัดเงินในสิ่งที่จำเป็นให้ครบถ้วนก่อน แล้วหากเหลือก็ค่อยนำไปเพิ่มเติมในส่วนที่อยากให้มีได้ค่ะ

ข้อสุดท้าย : บริหารเงินหลังแต่งงาน หลังจากมีความสุขกับการจัดงานแต่งงานไปแล้วนะคะ เราควรมีการวางแผนกันว่าหลังจากแต่งงานแล้ว เราจะใช้เงินกันแบบไหน เงินค่าสินสอดในตอนแรก บางคู่อาจโชคดีครอบครัวยกให้เป็นเงินขวัญถุงมาเริ่มครอบครัวใหม่ แต่บางคู่ก็อาจไม่ได้ ไม่ต้องน้อยใจไปค่ะ เพราะหากเรามีการบริหารจัดการเงินที่ดี ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะสิ่งที่เราได้มาแล้วจากการแต่งงาน คือ “คู่ชีวิต” ที่จะคอยอยู่เคียงข้างกัน ให้กำลังใจกันไปตลอดนะคะ เพราะฉะนั้นทั้งคู่ควรคุยกันว่า จะนำเงินค่าสินสอดแบ่งสัดส่วนไปลงทุนในด้านใด หรือแบ่งเก็บเงินเดือนละกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้ นำไปลงทุนในกองทุน บัญชีเงินฝาก หรือซื้อประกันชีวิต เพื่อเป็นหลักประกันหากคนใดคนหนึ่งเกิดไม่อยู่ขึ้นมา อีกฝ่ายจะได้มีเงินสำรองที่จะใช้ในยามฉุกเฉินได้

เป็นอย่างไรบ้างคะ การจัดงานแต่งงานเป็นเรื่องน่าสนุกใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นหากไม่ต้องการปวดหัวเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดแต่งงาน ก็ควรมีการวางแผนการแต่งงานที่ดีค่ะ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขและสนุกสนานในการวางแผนแต่งงานกันนะคะ และหวังว่าท่านผู้อ่านทุกท่าน จะสามารถนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ