เทคนิคออมเงินเพื่อแม่

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับคอลัมน์ Money Tips & Tricks คอลัมน์ดีๆ ที่จะมาช่วยแนะนำในเรื่องการวางแผนทางการเงินให้กับท่านผู้อ่านทุกท่านเป็นประจำทุกสัปดาห์นะคะ ในเดือนสิงหาคมของทุกปีจะมีวันสำคัญวันหนึ่งซึ่งหลายท่านๆ ต่างให้ความสำคัญกับวันนี้เป็นอย่างมากนั่นก็คือ “วันแม่แห่งชาติ” นั่นเองนะคะ โดยช่วงวันแม่ที่ผ่านมาท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านคงได้มีโอกาสพาคุณแม่ออกไปรับประทานอาหารมื้อพิเศษนอกบ้าน หรือมอบของขวัญพิเศษๆ ให้กับคุณแม่ที่ท่านรัก  เพราะสำหรับลูกๆ ทุกคนแล้วแม่นับเป็นบุคคลที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิต ท่านคอยดูแลเลี้ยงดูเราตั้งแต่เกิดจนเราเติบโตมีหน้าที่การงานที่มั่นคง และเมื่อถึงคราวที่เรามีงานทำมีรายได้ เราจึงคิดที่จะทดแทนพระคุณของท่าน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหลายท่านก็มักจะแบ่งเงินเดือนที่ได้รับบางส่วนมาให้แม่ในแต่ละเดือน เพื่อให้ท่านได้เอาไว้ใช้สอยตามที่ท่านต้องการ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนนะคะที่จะสามารถทำตามความฝันเหล่านี้ได้สำเร็จ เพราะต้องอาศัยการวางแผนออมเงินและวินัยทางการเงินที่ดี  

การแบ่งเงินเดือนมาให้แม่ใช้เป็นประจำทุกเดือนฟังดูแล้วเหมือนไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็มีหลายคนที่ยังทำไม่ได้ เนื่องจากไม่สามารถบริหารรายรับและรายจ่ายให้สมดุลกันได้ โดยวิธีการแบ่งเงินส่วนที่ตั้งใจจะให้แม่เอาไว้ตั้งแต่ต้นเดือน หรือกันเงินส่วนนี้เอาไว้ก่อนใช้จ่าย จะช่วยให้เราสามารถจัดสรรเงินส่วนนี้ให้กับท่านได้เป็นประจำทุกๆ เดือน ซึ่งคอลัมน์  Money Tips & Tricks ในวันนี้ก็มีเทคนิคง่ายๆ ในการออมเงินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คุณแม่ที่เรารักดังนี้ค่ะ

เทคนิคแรก หากคุณแม่มีความต้องการใช้เงินเป็นประจำทุกเดือน แนะนำให้ออมในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และทำบัตร ATM ให้กับคุณแม่เพื่อสะดวกในการเบิก – ถอน ทั้งนี้ในปัจจุบันธนาคารมีการออกบัตรเดบิต ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเบิกหรือถอนเงินแล้ว บัตรบางประเภทยังให้ความคุ้มครองทั้งการเสียชีวิต ทุพพลภาพ และค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุได้อีกด้วย จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจที่จะสมัครบริการนี้ให้กับคุณแม่ของเรา

เทคนิคที่สอง หากคุณแม่ไม่มีจุดประสงค์ที่จะใช้เงินที่ฝากเป็นประจำทุกเดือน เมื่อสะสมได้เป็นเงินจำนวนหนึ่งแล้ว แนะนำให้พาท่านไปเปิดบัญชีเงินฝากผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากประจำที่หากผู้ฝากเงินมีอายุ 55 ปีขึ้นไป ดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี กรณีดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทรวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี โดยเงินฝากรูปแบบนี้ยังให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุและกระดูกแตกหัก ซึ่งจะช่วยให้แม่ของเราได้รับทั้งผลตอบแทนจากการฝากเงิน และความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุอีกด้วยค่ะ

เทคนิคที่สาม เมื่อสะสมเงินก้อนได้จำนวนหนึ่งอาจจัดสรรวางแผนการเก็บออมเงินเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับคุณแม่ โดยรูปแบบการออมควรเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินต้นจะไม่สูญหาย โดยแนะนำให้ออมเงินในบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี ซึ่งเราจะต้องออมเงินเป็นจำนวนเงินเท่าๆ กันทุกเดือน เป็นเวลา 24 – 36 เดือน โดยจุดเด่นของเงินฝากรูปแบบนี้คือดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากประจำรูปแบบปกติ

การเก็บออมเงินให้แม่ไม่ใช่เรื่องยากหากเรามีการวางแผนทางการเงินที่ดี นอกจากนี้การที่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้เรามีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับผลประโยชน์ด้านอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามา โดยการศึกษาหาข้อมูลด้านการเงินเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์การเงินเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้การหาสิ่งของพิเศษให้แม่ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เฉพาะในโอกาสพิเศษวันแม่เท่านั้นนะคะ เพราะทุกๆ วันก็คือวันแม่ เราสามารถเก็บออมเงินให้แม่เพื่อใช้ในทุกๆ โอกาสได้โดยการออมเงินเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ  แล้วกลับมาพบกับเทคนิคง่ายๆ ในการวางแผนการเงินได้ใหม่ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ