ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับแผนเกษียณอายุ

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับแผนเกษียณอายุ

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความดีๆ ทางคอลัมน์กระเบียดเกษียณ โดย บมจ. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ที่จะเป็นส่วนหนึ่งให้ท่านได้วางแผนการเงินก่อนและหลังวัยเกษียณ เพื่อให้ท่านมีชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุขและไม่เป็นภาระของลูกหลานครับ เมื่อกล่าวถึงการวางแผนเพื่อเข้าสู่วัยเกษียณ หลายๆ ท่านอาจกำลังคิดถึงเป้าหมายของชีวิตที่เราทุกคนจำเป็นต้องไปให้ถึง แต่สำหรับวันนี้ผมจะขอกล่าวถึงความกับ 4 ความเชื่อที่ผิด…เกี่ยวกับการวางแผนเกษียณอายุ ที่จะทำให้ท่านผู้อ่านของผมไปไม่ถึงความฝันที่ได้วาดไว้ของชีวิตหลังวัยเกษียณ

  1. เกษียณอายุเร็วๆ นั้นดี หลายๆ ท่านเกษียณอายุก่อนเวลา จากนโยบายที่หลายๆ บริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถ Early-Retire ได้ โดยมีความเชื่อที่ว่าบริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ที่น่าสนใจก้อนโต แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า ถ้าหากคุณเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิ์ดังกล่าว และทำงานต่อด้วยผลประโยชน์จากโปรแกรมสนับสนุนการออมของบริษัท ที่เรียกและรู้จักกันในชื่อ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะช่วยให้คุณมีเงินออมหลังเกษียณต่างกันอย่างมาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับเมื่อคุณ Early-Retire
  2. มีการแผนเกษียณที่ดีก็เพียงพอแล้ว เชื่อหรือไม่ครับว่า คนที่เกษียณอายุไปแล้วหลายคนไม่สามารถทำตามที่ตัวเองวางแผนหรือวาดฝันเอาไว้ได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะ ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนสมมติฐานในการลงทุนให้ถูกต้องเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น อัตราผลตอบแทนที่เคยคาดว่าจะได้สูงกว่า 7-9% ต่อปีจากการลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้คงเห็นได้ยากในปัจจุบัน ดูได้จากอัตราการเติบโตของ GDP ประเทศไทยที่ยากจะเห็นเกิน 5%ในปัจจุบัน หากเศรษฐกิจโลกยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งผลตอบแทนที่น้อยลงนี้ จะทำให้เงินออมของคุณหมดลงก่อนวันเวลาที่คุณวางแผนเอาไว้ก็เป็นได้ และที่สำคัญอีกอย่างที่จะลืมกล่าวถึงไม่ได้เลยนั้นคือ ไม่กระจายการลงทุน ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ครับว่าบริษัทของคุณเปิดให้สามารถเลือกลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วยตนเองได้ ถ้าหากคุณไม่ทราบ หรือว่าทราบแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือก เงินออมของคุณในเบื้องต้นทั้งหมดจะถูกกำหนดให้อยู่ในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำที่สุดเช่นกัน และถ้าหากคุณปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไป เงินที่คุณจะได้หลังเกษียณคงไม่เหมือนตามที่คุณได้วาดฝันเอาไว้อย่างแน่นอน ดังนั้นคุณควรจะกระจายการลงทุน โดยอาจจะขอแบ่งสัดส่วนการลงทุนมาอยู่ในกองทุนตราสารหนี้หรือกองทุนหุ้น เพื่อให้มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่อย่างลืมนะครับว่าการลงทุนที่สูงขึ้นก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน
  3. สวัสดิการที่ได้รับหลังเกษียณนั้นดีแล้ว คนส่วนใหญ่มักคิดว่าจะมาขอใช้สิทธิรักษาพยาบาลหลังเกษียณจากรัฐ จึงทำให้คุณอาจจะต้องไปต่อคิวจองบัตรตั้งแต่ไก่ขัน ซึ่งกว่าจะได้ตรวจรักษาจริงๆ น่าจะใกล้เที่ยงวัน แถมมาด้วยกันอารมณ์ที่จะได้รับจากการบริการอีกด้วย ถ้าหากคุณไม่อยากจะรอสวัสดิการของรัฐ ก็ต้องหันไปใช้บริการของเอกชน ซึ่งราคาสูงกว่ามาก และยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงอีกด้วย ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเป็นตัวกัดกินเงินออมที่คุณเก็บรักษามาทั้งชีวิตไป อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษา พยาบาล และหาซื้อประกันสุขภาพสำหรับใช้ชีวิตหลังเกษียณไว้ให้พอเพียง
  4. การบริหารเงินหลักเกษียณถูกทางแล้ว ในส่วนนี้ที่ผมอยากจะเตือนท่านผู้อ่านของผมทุกท่านอีกข้อหนึ่งคือ ให้ความสำคัญกับการศึกษาบุตรจนไม่คิดถึงเรื่องเกษียณของตัวเอง ด้วยค่านิยมของคนไทยเราจะส่งลูกหลานให้ได้รับการศึกษาไปจนจบปริญญาตรี รวมไปถึงออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ ไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่ ค่าเรียนพิเศษ และยังไปกระทั่งถึงค่าจัดงานแต่งงานโดยไม่ได้คิดเรื่องเกษียณอายุของตนเอง ผมจึงขอเตือนสติเลยนะครับว่า เรื่องทุนช่วยเหลือการศึกษามีคนสนับสนุนให้เสมอไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ยืมจากรัฐบาล หรือเงินทุนต่างๆ ที่ทางสถาบันการศึกษาจัดให้สำหรับเด็กที่เรียนดีหรือกิจกรรมเด่นแต่…ทุนช่วยเหลือสำหรับการเกษียณไม่มีใครให้คุณได้นอกจากตัวคุณเอง

ซึ่งอย่าเพิ่งคิดว่าช้าไปแล้วที่จะเริ่มต้นในวันนี้ เพราะคุณยังต้องใช้ชีวิตสำหรับเกษียณไปอีก 20 30 หรือ 40 ปีก็เป็นได้ ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการวางแผนเพื่อการเกษียณและศึกษาหาความรู้ด้านการ เงินเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมและรับมือกับวัยเกษียณได้อย่างมีความสุขตามเป้าหมายที่คุณได้วาดฝันเอาไว้ แล้วกลับมาพบกันใหม่กับบทความดีๆ ที่จะช่วยให้เรื่องเกษียณไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวและไกลตัวของท่านอีกต่อไป สำหรับวันนี้สวัสดีครับ