ทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม..ดีหรือไม่ ??? 

ทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม..ดีหรือไม่ ??? 

 

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความดีๆ ทางคอลัมน์กระเบียดเกษียณ โดย บมจ. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ที่จะเป็นส่วนหนึ่งให้ท่านได้วางแผนการเงินก่อนและหลังวัยเกษียณ เพื่อให้ท่านมีชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุขและไม่เป็นภาระของลูกหลานครับ ในช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยซึ่งก็กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวของไทยและสิ่งที่ตามมาก็คือ “ปัญหาสุขภาพ” ซึ่งเมื่อมองถึงเรื่องสุขภาพแล้ว หลายท่านก็คงหนักใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและปัจจุบันนี้ค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต่างๆ ก็มีอัตราค่อนข้างสูงมากขึ้น เช่น ค่าห้อง ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด เป็นต้น ส่วนสาเหตุที่ค่ารักษาต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นก็เนื่องมาจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ดีขึ้น และยาบางตัวอาจต้องนำเข้ามาซึ่งก็มีราคาที่สูงมากอีกด้วย ดังนั้นท่านผู้อ่านที่มีความคาดหวังที่ต้องการวางแผนทางการเงินโดยอยากลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่ารักษาแต่ก็อยากได้รับการรักษาที่ดีขึ้น  สะดวกสบายมากขึ้น ได้อุปกรณ์การรักษาและยาที่ดีขึ้น  ก็มักที่จะเลือกซื้อ “ประกันสุขภาพเพิ่มเติม” เพื่อเป็นการถ่ายโอนความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงได้ดี และการทำประกันสุขภาพในปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกมากมาย จนไม่รู้ว่าแบบไหนที่เหมาะกับความต้องการของเรามากที่สุด และไม่เป็นการสร้างภาระมากเกินไป วันนี้เรามาทำความรู้จักประกันสุขภาพหลักๆ กันครับว่ามีอะไรบ้าง

1.แบบผู้ป่วยใน (IPD) สำหรับผู้ที่เจ็บป่วยต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีสวัสดิการใดหรือมีแต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เช่น นอนให้น้ำเกลือ หรือผ่าตัด เป็นต้น ปกติประกันสุขภาพประเภทนี้จะกำหนดวงเงินในการรักษาพยาบาลไว้ เช่น ค่าห้องต่อวันเท่าไร ค่าผ่าตัดต่อโรคเท่าไร ค่าแพทย์  ค่ายาเท่าไร  และจะกำหนดวงเงินในการรักษาพยาบาลต่อครั้งไว้ด้วย เช่น ครั้งละไม่เกิน 10,000 –  50,000 เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกแบบประกันสุขภาพแบบไหน ซึ่งเมื่อเลือกวงเงินในการรักษาที่สูง ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงไปด้วย

2.แบบผู้ป่วยนอก (OPD) จะเหมาะสำหรับผู้ที่เจ็บป่วยบ่อย ไม่สบาย เป็นหวัด ภูมิแพ้ เจ็บคอ รักษาไปแล้วก็กลับมาเป็นอีก การทำประกันสุขภาพประเภทนี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาในแต่ละครั้งได้ โดยจ่ายค่าเบี้ยเพื่อความคุ้มครองเล็กน้อยนี้ได้ โดยปกติประกันสุขภาพประเภทนี้ ก็จะกำหนดวงเงินในการเข้ารักษาพยาบาลเหมือนกัน เช่น 1,000 – 2,000 บาท เป็นต้น และจะกำหนดจำนวนครั้งสูงสุดที่สามารถเบิกได้ เช่น ปีละไม่เกิน 30 ครั้ง

3.แบบโรคร้ายแรง ปัจจุบันนั้นทุกคนมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคร้ายแรง ยิ่งถ้าหากมีกรรมพันธุ์ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นแบบประกันนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองจากโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง เป็นต้น ซึ่งการประกันสุขภาพโรคร้ายแรงนี้ หากแพทย์วินิจฉัยเจอว่าเป็นโรคเหล่านี้ ทางบริษัทประกันก็จะทำการจ่ายเงินค่าทดแทนเป็นเงินก้อนตามที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์ทันที เพื่อให้เรานั้นสามารนำไปใช้จ่ายรักษาตัวได้

4.แบบอุบัติเหตุ เป็นประกันอีกประเภทหนึ่งที่ควรจะทำ เนื่องจากอุบัติเหตุเป็นภัยที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะที่ทำงาน ที่บ้าน หรือบนท้องถนน ยิ่งถ้าเราเดินทางบ่อยๆ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันประกันสุขภาพบางตัวก็จะมีความคุ้มครองในส่วนของอุบัติเหตุพ่วงอยู่ด้วย เช่น ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือ ค่าธรรมเนียมแพทย์สำหรับการรักษาโดยการผ่าตัด ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท

5.แบบชดเชยรายวัน จะเป็นแบบประกันที่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำหรือผู้ที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ หากมีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นและต้องนอนพักรักษาตัว ทำให้รายได้ขาดหายไปในระหว่างที่พักรักษาตัว แบบประกันนี้ก็จะมีวงเงินที่ชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปให้ เช่น เรานอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 วัน ก็จะมีประกันที่ชดเชยรายได้ให้วันละ 2,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแบบประกันที่เลือก)

จะเห็นได้ว่าการทำประกันสุขภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งและเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย และบางแบบประกันแม้จะเบิกหรือเคลมไปแล้วเมื่อครบสัญญาก็มีเงินคืนให้บางส่วนแถมยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ดีอีกด้วย แม้แต่คนที่มีสวัสดิของประกันสุขภาพอยู่แล้ว เช่น ประกันสังคม สวัสดิการรักษาพยาบาลของทางราชการหรือหน่วยงานรัฐ หรือประกันสุขภาพแบบกลุ่มที่ทางบริษัทที่เราทำงานอยู่มีสวัสดิการให้ แต่เราอยากทำเพิ่มเพื่อให้ได้รับวงเงินค่ารักษาที่มากขึ้นรวมถึงความสะดวกสบายและการบริการที่ดี ก็สามารถพิจารณาเลือกซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้เช่นกัน ซึ่งถ้าหากถามว่าแบบประกันสุขภาพของที่ไหนดีนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับตัวของท่านผู้อ่านเองด้วยว่าทำการศึกษาข้อมูลของบริษัทประกันมามากแค่ไหน  ถูกใจกับการบริการ ความคุ้มครอง หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของบริษัทประกันที่ไหนมากกว่ากัน และแบบประกันไหนที่เหมาะสม และตอบโจทย์กับตัวท่านผู้อ่านเองมากที่สุดนั่นเองครับ

สุดท้ายนี้หลังจากที่ท่านผู้อ่านได้ทราบแล้วว่าแบบประกันสุขภาพนั้นมีอะไรบ้าง ก็จะทำให้ตัวท่านผู้อ่านเองวางแผนบริหารจัดการเงินด้วยการถ่ายโอนความเสี่ยงในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้เหมาะสมขึ้น เพื่อให้ไม่กระทบกับแผนเกษียณที่ท่านได้วางไว้ แล้วกลับมาพบกับสาระดีๆ แบบนี้ได้ใหม่ในครั้งหน้า  สำหรับวันนี้สวัสดีครับ