ออมเงินตามช่วงวัยเพื่อความสุขในวัยเกษียณ

ออมเงินตามช่วงวัยเพื่อความสุขในวัยเกษียณ

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความดีๆ ทางคอลัมน์กระเบียดเกษียณ โดย บมจ. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ที่จะเป็นส่วนหนึ่งให้ท่านได้วางแผนการเงินก่อนและหลังวัยเกษียณ เพื่อให้ท่านมีชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุขและไม่เป็นภาระของลูกหลานครับ “การออมเงินให้เป็น” ถือเป็นหัวใจหลักของการประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะเมื่อเรามีเงินออมเราก็จะสามารถนำเงินออมไปต่อยอดด้านการลงทุน เพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อเอาไว้ใช้ในยามเกษียณ ซึ่งเป้าหมายทั้งหมดล้วนเริ่มต้นจากการออม แต่หลายๆ ท่านก็มักจะเกิดคำถามว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้เราควรออมเงินแบบไหน เพราะแต่ละคนต่างก็มีอาชีพและหน้าที่การงานที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เป้าหมายทางการเงินของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป  โดยในวันนี้ผมจึงมีแนวทางง่ายๆ ในการออมสำหรับคนทุกวัยที่อยากเริ่มต้นออมเงิน แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มวางแผนการออมเงินอย่างไรดีมาฝากท่านผู้อ่านทุกท่านครับ

เรามาเริ่มกันด้วยช่วงวัยแรก วัยสร้างฝัน หรือวัยเริ่มต้นทำงาน (ช่วงอายุระหว่าง  20 – 30 ปี) ในวัยนี้หลายๆ ท่านยังไม่มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากนัก และยังเป็นวัยที่สามารถทำงานได้อีกนานเพื่อสร้างอนาคต จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บออมเงิน ทางลัดที่จะเรียนรู้เรื่องการลงทุนสำหรับวัยนี้คือการหาไอดอลด้านการลงทุน เพื่อเรียนรู้เรื่องราวด้านการเงินทั้งเรื่องการออมและการลงทุน และในวัยนี้ควรฝึกการลงทุนเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญมากที่สุด เพราะคนในวัยนี้แม้จะต้องเสียเงินลงทุนไปแต่ก็สามารถฟื้นตัวได้เร็ว สำหรับการออมเงินสำหรับคนวัยนี้ควรเริ่มต้นจากการแบ่งเงินออมออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งนำไปลงทุนในหุ้นด้วยจำนวน 80% และอีก 20% ควรนำไปลงทุนในธนาคารในรูปแบบเงินฝาก สลากออมสิน หรือตราสารหนี้ที่มีความปลอดภัยสูงได้อัตราดอกเบี้ยแน่นอนเพื่อเป็นหลักประกันให้ตนเอง อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีเพราะในระยะยาวหุ้นจะมีทิศทางเพิ่มมากขึ้น โดยเลือกซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีแล้วซื้อเก็บไว้ จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของหุ้นได้มาก

ช่วงวันที่ 2 วัยสร้างครอบครัว  (ช่วงอายุระหว่าง 31 – 40 ปี) ในวัยนี้หน้าที่การงานของหลายๆ ท่านเริ่มมีความมั่นคง ด้วยรายได้สูงขึ้นจึงต้องเก็บเงินออมสำหรับเป้าหมายต่างๆ เช่น การสร้างครอบครัว ผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด  ผ่อนรถ หรือเรียนต่อ ทำให้ค่าใช้จ่ายของคนในวัยนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการออมเงินควรปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเหลือเพียง 50% และเพิ่มส่วนที่ลงทุนในธนาคารเป็น 50% เนื่องจากคนวัยนี้รับความเสี่ยงได้น้อยลงเพราะภาระค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งต้องสำรองสำหรับสร้างครอบครัว  อย่างไรก็ตามอาจเริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวเพื่อเป็นการสร้างหนทางในการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น และยังได้ทำตามความชอบอีกด้วย

ช่วงวัยที่ 3 วัยสร้างตัว (ช่วงอายุระหว่าง 41 – 60 ปี) ในบรรดาคนทุกวัยๆ นี้ถือว่าเป็นวัยที่สามารถสร้างรายได้สูงที่สุดและมีความมั่นคงในอาชีพของตนเองมากที่สุด แต่ก็เป็นวัยที่มีรายจ่ายมากที่สุดเช่นกันเพราะภาระรับผิดชอบต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตนเองและของคนในครอบครัว ดังนั้นจึงควรปรับเปลี่ยนการลงทุนเพื่อการออมให้เป็นการลงทุนในหุ้น 30% และลงทุนในธนาคาร 70% เพื่อความปลอดภัยเพราะอาจเกิดปัญหายามฉุกเฉินแล้วไม่มีเงินเก็บสำรองไว้ อย่างไรก็ตามควรเลือกลงทุนในหุ้นระยะยาวเพื่อเพิ่มพูนเงินออมให้มากขึ้น จะได้มีรายได้รวมกับดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินฝากของธนาคารด้วย

ช่วงวัยที่ 4 วัยสร้างสุข (ช่วงอายุระหว่าง 60 ปีขึ้นไป) หลายคนที่เข้าสู่วัยนี้ลองปรับลดการออมที่เน้นลงทุนในหุ้นให้เหลือเพียง 10% และเน้นการออมไปกับเงินฝากในธนาคาร หรือตราสารหนี้ 90% แทน เพราะวัยนี้เป็นวัยที่ต้องการความปลอดภัยสูงและรับความเสี่ยงได้น้อยที่สุด หากเกิดความผิดพลาดจากการลงทุนก็ยังมีเงินสำรองเก็บไว้ใช้โดยไม่กระทบสถานภาพทางการเงินมากนัก อย่างไรก็ตามบางคนอาจนำเงินไปลงทุนในธุรกิจขนาดเล็กแต่ก็ไม่ควรเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง

ท่านผู้อ่านลองเช็คตัวท่านเองดูนะครับว่าตอนนี้ท่านอยู่ในช่วงชีวิตใดเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออมและการลงทุนให้เข้ากับช่วงวัยของตัวท่านเอง เพื่อให้ท่านสามารถใช้ชีวิตและมีเงินเก็บเพื่อต่อยอดความสุขให้กับวัยเกษียณของท่าน สุดท้ายนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีวินัยในการใช้เงินโดยต้องใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายในการที่จะหาเงินได้มากๆ ในยุคนี้ครับ แล้วกลับมาพบกับสาระความรู้ดีๆ ได้ใหม่ในครั้งหน้า และท่านจะรู้ว่าการวางแผนการเงินสำหรับชีวิตวัยเกษียณไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สำหรับวันนี้สวัสดีครับ.