แค่คิด ชีวิตเปลี่ยน

บทความทางคอลัมน์ ”กระเบียดเกษียณ”  นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับ วันที่ 25 กันยายน 2560

 

แค่คิด ชีวิตเปลี่ยน

 

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความดีๆ ทางคอลัมน์กระเบียดเกษียณ โดย บมจ. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ที่จะเป็นส่วนหนึ่งให้ท่านได้วางแผนการเงินก่อนและหลังวัยเกษียณ เพื่อให้ท่านมีชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุขและไม่เป็นภาระของลูกหลานครับ ท่านผู้อ่านเคยตั้งคำถามไหมครับว่า “ใช้ชีวิตหลังเกษียณทําอะไรบ้างและทําอย่างไร” ซึ่งไม่ง่ายนักนะครับที่จะตอบคำถามดังกล่าว โดยแต่ละคนมีโครงการชีวิตหลังการทํางานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรหลังเกษียณควรต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ประเมินความพร้อมของตนเองในด้านการเงิน ความสามารถ ประสบการณ์ และพละกำลังของตนเอง คนในวัยต้นเกษียณส่วนใหญ่ยังสามารถทำอะไรได้มากบางคนเลือกเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ๆ ตนอยากไปแต่ไม่มีโอกาสได้ไปในช่วงวัยทำงาน บ้างก็เดินทางแสวงหาประสบการณ์ใหม่ที่มีค่าให้กับตนเอง บางคนวางแผนพักผ่อนสบายๆ อยู่บ้าน ทำงานอดิเรก  ออกกำลังกาย บางคนเบนเข็มไปทำอาชีพอื่นตามความฝัน หรือทำงานสร้างรายได้ต่อไปเพื่อความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต

ชีวิตวัยเกษียณเป็นช่วงที่ต้องปรับตัวเป็นอย่างมากเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายและจิตใจ วัยเกษียณเมื่อออกจากงานไม่มีรายได้ก็เกิดความความรู้สึกที่ว่าตนเองไร้คุณค่า ประสบกับความเสื่อมถอยของสุขภาพร่างกาย
ซึ่งส่งผลต่อจิตใจค่อนข้างมากและอาจแสดงออกทั้งทางกายและอารมณ์ จำเป็นต้องแก้ไขปรับทัศนะและมุมมองใหม่โดยการศึกษาธรรมะก็เป็นเครื่องนำทางในการดำรงชีวิตให้อยู่อย่างมีความสุข มีคุณค่า และเป็นตัวอย่างที่ดีของครอบครัว
และที่สำคัญคนในวัยเกษียณจำเป็นต้องดูแลสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เอาใจใส่เรื่องอาหารการกินมากขึ้น และออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพและเมื่อเตรียมพร้อมกับสิ่งที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้นการดำเนินชีวิตหลังเกษียณก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลอีกต่อไปแต่กลับเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้ตนเองทบทวนชีวิตในอดีตทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว หรือการเริ่มต้นเส้นทางชีวิตกับสิ่งที่ใจชอบมีโอกาสใช้ชีวิตอิสระตามที่ต้องการ มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวมากขึ้น โดยวัยเกษียณควรใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น ทำงานอดิเรก ออกกำลังกาย เขียนหนังสือ หรือทำงานช่วยเหลือสังคมตามโอกาสเอื้ออำนวย​​

แล้วคนเราใช้ชีวิตหลังเกษียณนานเพียงใด ใช้เงินเดือนละเท่าไร ควรเตรียมเงินจำนวนมากแค่ไหน?? น้อยคนที่จะไม่หวั่นไหวในการใช้ชีวิตหลังเกษียณเนื่องจากได้มีการวางแผนการเงินที่ดี ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างมั่นใจ โดยทุกวันนี้คนเรามีอายุยืนยาวขึ้นยิ่งมีภาระต้องใช้เงินหลังเกษียณมากขึ้นค่าใช้จ่ายด้านรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นทุกปี ค่าครองชีพขยับสูงในขณะที่ไม่มีรายได้หรือไม่มีแรงทำงานหาเงินแล้ว ดังนั้นแล้วจึงควรต้องมีการวางแผนเตรียมตัวล่วงหน้าด้วยการเริ่มออมเมื่ออายุยังน้อย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระหนักเกินไปเมื่ออายุมากขึ้นหรือกลายเป็นภาระให้แก่ลูกหลาน ส่วนผู้ที่ไม่ได้วางแผนเก็บออมเงินไว้ใช้มารู้ตัวอีกทีเมื่อเกษียณแล้วว่าเงินทองที่สะสมมาได้ทยอยจ่ายออกไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะเหลือน้อยไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตในภายภาคหน้าจึงทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ก็จำเป็นต้องมองหาช่องทางอาชีพหลังหมดหน้าที่การงานแล้ว โดยเลือกให้เหมาะกับความชอบ ความถนัด และสภาพร่างกาย ผู้ก้าวสู่วัยเกษียณเปรียบเสมือนเป็นคลังความรู้และคลังประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดชีวิต ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ยังสามารถนำมาเพื่อประกอบอาชีพหลังเกษียณได้ เช่น อาจารย์พิเศษ นักวิชาการ วิทยากร ที่ปรึกษาบริษัท เป็นต้น บางคนมีอาชีพเสริมหรืองานอดิเรกปูลู่ทางตั้งแต่ยังไม่เกษียณก็อาจทำงานส่วนตัวที่ใจรัก เช่น งานศิลปะ งานฝีมือ ค้าขาย ทำสวน เป็นต้น สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนหรือเริ่มต้นอาชีพใหม่ก็ควรศึกษาความเป็นไปได้

ความสามารถศึกษาเรียนรู้อาชีพใหม่ให้เชี่ยวชาญและการประเมินสมรรถภาพร่างกายว่าสามารถดำเนินการอาชีพใหม่ได้เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง เพราะอาจขาดทุนและกระทบเงินออมสำหรับวัยเกษียณได้ ครอบครัว ลูกหลานและสังคมรอบตัวมีส่วนส่งเสริมให้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข ผู้สูงวัยต้องปรับตัวให้ดํารงชีวิตร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข ควรแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ  กับคนในครอบครัว ออกไปสมาคมกับเพื่อนฝูงเพื่อรักษามิตรภาพเก่าๆ ไว้และสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ตามโอกาสอันควร บุคคลเหล่านี้จะช่วยให้คนวัยเกษียณมีความรู้สึกมั่นใจและอุ่นใจมากยิ่งขึ้นกับชีวิตหลังเกษียณ และควรใช้ชีวิตและเวลาที่ยังเหลืออยู่อย่างมีคุณค่าไม่ควรปล่อยไปอย่างเปล่าประโยชน์และไร้ความหมาย

ในปัจจุบันองค์กรต่างๆ รับคนวัยเกษียณเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนโครงการในด้านต่างๆ การมีกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกับสังคมตามสภาพร่างกายที่ยังพอมีสมรรถภาพที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมทำให้เกิดความเพลิดเพลินในชีวิตช่วยเหลือสังคม รู้จักแบ่งปัน เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม มีจิตสาธารณะ ย่อมไม่รู้สึกว่าคุณค่าของตนลดน้อยถอยลงไปตามวัย

เมื่อสุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี วางแผนชีวิตไว้รอบคอบ เมื่อถึง “วันทำงานวันสุดท้าย” ไม่ว่าชีวิตหลังเกษียณจะเดินไปในทิศทางใดก็คงสามารถจัดการกับชีวิตในบั้นปลายได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นวัยเกษียณแต่ก็ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขครับเพียงแค่เราเปลี่ยนความคิดและเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อก้าวเข้าสู่วัยเกษียณก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป แล้วกลับมาพบกับสาระความรู้ที่จะช่วยให้เรื่องเกษียณไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ