กระจายการลงทุนเพื่อย่อเวลาเกษียณ

กระจายการลงทุนเพื่อย่อเวลาเกษียณ

 

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความดีๆ ทางคอลัมน์กระเบียดเกษียณ โดย บมจ. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ที่จะเป็นส่วนหนึ่งให้ท่านได้วางแผนการเงินก่อนและหลังวัยเกษียณ เพื่อให้ท่านมีชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุขและไม่เป็นภาระของลูกหลาน ก่อนที่จะมาพบสาระดีๆ ที่เรานำมาฝากผู้อ่านทุกท่าน เข้าสู่เดือนกลางปี 2561 และเป็นเดือนเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม อีกด้วยครับ สำหรับในวันนี้เราก็ยังมีสาระดีๆ ที่นำมาฝากให้ท่านผู้อ่านของผมทุกท่านเป็นประจำเช่นเคย งั้นเราพบกับสาระดีๆ กันดีกว่าครับ

หลายๆ ท่านคิดที่อยากให้บั้นปลายชีวิตของตัวเองนั้นได้พักผ่อน บ้างก็จะได้ยินคนในสังคมส่วนมากชอบพูดว่า “เกษียณไม่ต้องรอให้ถึงอายุ 60 ปี ก็สามารถเกษียณได้” ซึ่งคำตอบคือ “ใช่ครับ” ความเป็นจริงแล้วการเกษียณอายุไม่จำเป็นต้องรอให้อายุ ขึ้นเลข 6 จะตอนไหนๆ ก็สามารถเกษียณได้ การที่เราจะเกษียณตัวเองไม่จำเป็นต้องรอนาน ถ้าเรามีความพร้อม ทั้งการงานและการเงินแล้ว เราก็จะสามารถหยุดการทำงานแล้วใช้ชีวิตสนุกและมีความสุขได้ทันที ไม่ต้องรอให้ถึงบั้นปลายชีวิต วันนี้ผมได้นำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับวิธีการกระจายการออมเพื่อที่จะได้เกษียณตัวเองให้เร็วขึ้น มาฝากครับ

การออมเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่มีหนทางไหนที่ช่วยคุณสร้างความมั่งคั่งได้แน่นอนไปกว่า การใช้น้อยๆ แล้วออมเยอะๆ อีกแล้วครับ ถ้าตอนนี้คุณสามารถออมเงินได้เดือนละ 10% ของรายได้ ท้าทายตัวเองว่าจะออมให้ได้ 15% ของรายได้ก่อนสิ้นปีนี้ คุณอาจจะมีเงินใช้จ่ายน้อยลง แต่คุณจะขอบคุณตัวเองในภายหลัง ถ้าการเพิ่มเงินออม 5% ทำให้คุณรู้สึกตึงเกินไป เริ่มจากการทำทีละน้อยด้วยการเพิ่มเงินออม 1% ก่อนก็ได้

กระจายการลงทุน “อย่างชาญฉลาด” ข้อนี้มีผลกับความมั่งคั่งของเรามากที่สุด ควรกระจายการลงทุนไปในหลาย Asset เพราะไม่มี Asset ไหนเป็นที่หนึ่งในทุกๆ ปี การกระจายการลงทุนทำให้เราไม่พลาด Asset ที่ทำผลตอบแทนสูงสุดในแต่ละปี และที่สำคัญทำให้ผลตอบแทนของเราเสถียรขึ้น เครื่องมือที่กระจายการลงทุนได้ดีที่สุด คือ กองทุนรวม กระจายการลงทุนไปใน Asset ต่อไปนี้

Security “กองทุนรวมตราสารหนี้” เป็น Asset ที่มีความปลอดภัยสูง เติบโตช้า แต่มั่นคง มีไว้เพื่อเก็บกำไรที่ได้จากหุ้น และป้องกันการขาดทุนหนัก เมื่อหุ้นตกแรงๆ เพราะเมื่อหุ้นตก พันธบัตรจะขึ้น

Growth “กองทุนรวมหุ้น” เป็นสินทรัพย์ที่เน้นการเติบโต ในส่วนนี้แนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นขนาดใหญ่ เพราะมีกิจการที่มั่นคง ผลตอบแทนตามตลาดหุ้นไทย

Aggressive “กองทุนรวมหุ้นขนาดเล็ก” จะโฟกัสการลงทุนไปที่หุ้นเล็ก โตเร็ว ราคาจะแกว่งมากกว่าในแบบ Growth แต่สิ่งที่ได้คือ ผลตอบแทนจะมากกว่าด้วย นอกจากจะให้ผลตอบแทนที่ดีแล้ว ยังช่วยให้ผลตอบแทนของพอร์ตยังดูดี แม้ตลาดหุ้นตก เช่น เมื่อปี 2558 ตลาดหุ้นไทยติดลบไป 14% แต่กองทุนรวมหุ้นขนาดเล็กก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดี

International “กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ” ในหลายๆ ครั้งที่ตลาดหุ้นไทยทำผลงานได้ไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าที่อื่นจะแย่ไปด้วย อย่างเมื่อปีที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยติดลบ แต่กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นที่อเมริกา และยุโรปก็ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม

ไม่ควรเก็งว่า Asset ไหนจะมาแล้วเลือกลงทุนเพียงตัวใดตัวหนึ่ง เพราะมีโอกาสเสียเงินสูง แนะนำให้ลงทุนครบทุก Asset จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เสถียรกว่า ในระยะยาวทำทุกอย่างให้เป็นอัตโนมัติ เพราะสิ่งที่การันตีความสำเร็จในทุกสิ่ง คือ ความสม่ำเสมอ ความสำเร็จเกิดจากการทำเรื่องธรรมดาซ้ำๆ จนผลลัพธ์ไม่ธรรมดา การลงทุนก็เช่นเดียวกัน การลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยการหักบัญชีอัตโนมัติ ทำให้เรากังวลกับการขึ้นลงของราคาหุ้นน้อยลง มีเวลาไปทำสิ่งที่รักมากขึ้น และยังได้ผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ปล่อยเงินทำงาน ตั้งเป้าหมาย ทำตามแผน แล้วปล่อยเงินทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยง การซื้อๆ ขายๆ ที่บ่อยเกินไป การจับจังหวะลงทุน และนิสัยการลงทุนที่ไม่ดีอื่นๆ ที่มักทำลายผลตอบแทนของเรา

จะเห็นได้ว่าการออมนั้นไม่ได้มีวิธีแค่ฝากเงินอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีช่องทางที่เราจะออมเพื่อเราจะได้มีเงินที่เพิ่มมากขึ้น มากกว่าอดทนที่จะเก็บเงินไว้ในบัญชีและรอดอกเบี้ยอย่างเดียว ยังมีอีกหลายวิธีที่เราสามารถออมและสามารถนำเงินที่ออมไปลงทุนเพื่อที่จะได้มีจำนวนเงินที่มากขึ้น เพื่อชีวิตในวัยเกษียณที่เร็วขึ้นตามที่ตัวเองต้องการครับ แล้วกลับมาพบกับสาระดีๆ เป็นประจำเช่นเคย สำหรับวันนี้สวัสดีครับ