ยิ่งเข้าสู่วัยเกษียณ ยิ่งต้องมีเป้าหมาย

บทความทางคอลัมน์ ”กระเบียดเกษียณ”  นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับ วันที่ 9 ตุลาคม 2560

 

ยิ่งเข้าสู่วัยเกษียณ ยิ่งต้องมีเป้าหมาย

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความดีๆ ทางคอลัมน์กระเบียดเกษียณ โดย บมจ. แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ที่จะเป็นส่วนหนึ่งให้ท่านได้วางแผนการเงินก่อนและหลังวัยเกษียณ เพื่อให้ท่านมีชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุขและไม่เป็นภาระของลูกหลานครับ เมื่อชีวิตก้าวเข้าใกล้วัยเกษียณหลายๆ ท่านยังไม่ได้วางแผนชีวิตว่าจะต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างไร

สำหรับวันนี้ผมก็มีวิธีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยเกษียณมาฝากท่านผู้อ่านทุกท่าน เพราะผมเชื่อว่าคนเราจะมีอายุภายหลังการเกษียณอีกยาวนาน ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องมีแผนและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการดำเนินชีวิตหลังการเกษียณ เพราะถ้าจะให้ใช้ชีวิตหลังเกษียณแบบไม่มีจุดมุ่งหมายปล่อยชีวิตให้ผ่านไปวันๆ ย่อมจะทำให้ชีวิตของเราเคว้งคว้างและท้ายที่สุดก็จะเบื่อ โดยเรามาดูข้อแนะนำดีๆ ทีละประเด็นในการตั้งเป้าหมายชีวิตหลังเกษียณ เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ใช้เป็นแนวทางในการใช้ชีวิตเกษียณอย่างมีความสุขดังนี้ครับ

ประเด็นแรก  คนที่อยู่ในวัยเกษียณทุกคนจำเป็นที่จะต้องมีเป้าหมายในชีวิตและควรมีเป้าหมายที่ชัดเจนด้วย แม้อายุจะมากแล้วก็ตามแต่ในความเป็นจริงผมคิดว่าอายุ 60 ปี เป็นอายุที่กำลังดีและยังไม่สูงมากนักสำหรับคนในยุคนี้ เพราะอะไรหรือครับก็เพราะอายุขัยของคนไทยตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 70 ปี และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนมีอายุถึง 80 – 90 ปี แถมยังแข็งแรงมากๆ โดยจะเห็นได้ว่าคนที่อยู่ในวัยเกษียณอย่างน้อยจะมีเวลาไปอีกหลายปีซึ่งเรียกว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นจึงสามารถตั้งเป้าหมายได้หลายอย่างสามารถทำสิ่งที่มีคุณค่าได้อีกมากมายครับ

เป้าหมายของชีวิตหลังเกษียณจึงเป็นสิ่งสำคัญขอให้ท่านที่เข้าสู่วัยเกษียณอายุเริ่มตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ได้เลยนะครับ โดยเขียนเป้าหมายให้ชัดเจน มีคุณค่า โดยกำหนดหรือจัดสรรเวลาสำหรับตนเอง ครอบครัวและสังคมอย่างเหมาะสมครับ

ประเด็นที่สอง  นอกจากทำตามเป้าหมายแล้วให้เราเลือกทำในสิ่งที่มีคุณค่ากับชีวิตด้วยโดยต้องเป็นไปได้และไม่ยากเกินไป ในส่วนนี้ผมจะแนะนำให้ผู้ที่เกษียณอายุดูแลจัดการคือทำอย่างไรให้รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจของเรา ผู้เกษียณอายุหลายท่านเอาความภาคภูมิใจไปผูกไว้กับลูกหลานคือ เมื่อเกษียณอายุแล้วก็ทำหน้าที่เลี้ยงหลานแบบนี้ก็ทำให้ชีวิตมีคุณค่าได้เช่นกัน แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้อยู่กับลูกหลานก็ต้องหาการสร้างความภาคภูมิใจและรู้สึกดีแบบง่ายๆ เช่น การที่เราจะสามารถมีความสงบสุขทางใจด้วยวิธีการต่างๆ อย่างเช่นการอยู่กับธรรมชาติ ตรงนี้ก็เป็นการสร้างความสุขใจได้ด้วยตัวเองก็เป็นความภูมิใจได้อย่างหนึ่งหรือการเอาเวลาที่มีอยู่ไปใช้ประโยชน์ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่นทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อชุมชนช่วยจัดเวทีให้ผู้สูงอายุมีที่ๆ จะไปช่วยเหลือและใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ชีวิต โดยการแบ่งปันประสบการณ์หรือแนวคิดดีๆ ก็ได้เช่นกันครับ

ประเด็นที่สาม  หากลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของตัวเองโดยต้องหาความสัมพันธ์ที่ยังต้องเกื้อกูลกันจริงๆ ผู้เกษียณอายุหลายๆ คนที่ลูกหลานไม่ได้อยู่ด้วยจะต้องหากลุ่มเพื่อนมาคอยช่วยเหลือ คอยดูแลในยามที่เจ็บป่วย ดังนั้นการมีสายสัมพันธ์ในวงเพื่อนไว้คอยพูดคุยพบปะกันหรือร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ ก็จะทำให้ผู้เกษียณรู้สึกว่าชีวิตยังมีคุณค่าและชีวิตมีความสนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทาย ซึ่งกลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มกิจกรรมเหล่านี้ยังเป็นตัวเชื่อมโยงให้มีการแลกเปลี่ยนในเรื่องของสุขภาพและการเงินได้อีกด้วย

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนวัยเกษียณควรกำหนดเป้าหมายในแต่ละวันให้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเข้านอน ตื่นนอน การปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ทำสมาธิ การออกกำลังกาย การติดต่อพบปะเพื่อนฝูง ไปจนถึงการเอาเวลาที่มีอยู่เอาความสามารถที่มีอยู่ไปแบ่งปันผู้อื่น สิ่งเหล่านี้เป็นการออกแบบเป้าหมายของตนเอง เพื่อจะได้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า และจะทำให้มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี เห็นมั้ยครับว่า “ยิ่งเข้าสู่วัยเกษียณ ยิ่งต้องมีเป้าหมาย” แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ