การเลือก “ตัวแทน” หรือ “นายหน้า” ประกันชีวิต
หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันที่ 26 มกราคม 2561
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับคอลัมน์หน้าต่างประกันภัยที่จะมานำเสนอสาระความรู้ดีๆ ในเรื่องการวางแผนการเงิน ภาษี และการประกันชีวิตครับ “การพบกัน มิใช่เรื่องบังเอิญ” คู่รักหลายๆ คู่เชื่อว่าการที่เราได้มาใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคนนั้นเป็นเรื่องของพรหมลิขิตที่ได้กำหนดมาให้เรานั้นคู่กัน แต่ก็มีอีกหลายคู่อีกเช่นกันเชื่อว่าการได้พบกันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากความตั้งใจของเราคนใดคนหนึ่ง รวมทั้งอีกๆ หลายคู่ที่ได้พบเจอกันนั้นก็เพราะพ่อสื่อแม่ชักที่ได้แนะนำให้รู้จักกัน
ขึ้นต้นมาแบบนี้ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะคิดว่าวันนี้ผมได้เปลี่ยนไปเขียนบทความเรื่องความรัก แทนการเขียนบทความเรื่องการประกันชีวิตแล้วหรือ จริงๆ แล้วไม่ใช่นะครับ ในวันนี้ผมก็ยังนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับประกันชีวิตมารับใช้ท่านผู้อ่านเหมือนเช่นเคยครับ เพียงแต่วันนี้ผมอยากจะเปรียบเทียบการทำกรมธรรม์ประกันชีวิตกับการเลือกคู่ชีวิตของเรานั่นเองครับ เพราะผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านที่ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับแรกไป อาจจะยังไม่ทราบรายละเอียดความคุ้มครอง หรือผลประโยชน์ที่จะได้รับจากกรมธรรม์สักเท่าไหร่ เพียงแต่ที่ซื้อไปนั้นเพราะเกิดจากความเกรงใจ หรืออาจจะซื้อเพราะอยากช่วยเพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้องของเราเท่านั้นเอง แต่อันที่จริงแล้วผมอยากให้ท่านผู้อ่านที่กำลังตัดสินใจเลือกทำประกันชีวิตสักฉบับ ลองคิดเสมือนหนึ่งว่าท่านกำลังจะเลือกคู่ชีวิตของท่านสักคน เพราะกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ท่านทำไปนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่กับท่านไปอีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมาขอเลิกกันกลางคันก็คงจะลำบาก เนื่องจากเงินที่ได้จ่ายไปแล้วนั้นส่วนใหญ่จะไม่ได้คืน หรือได้คืนไม่เต็มจำนวน
ดังนั้น การที่เราจะเจอคู่ชีวิตที่ดีที่เหมาะสม บางครั้งก็ต้องอาศัยพ่อสื่อแม่ชักมาช่วยแนะนำ ในทำนองเดียวกันบุคคลที่เป็นพ่อสื่อแม่ชักให้เราตัดสินใจเลือกทำประกันชีวิต ก็คือ “ตัวแทน” หรือ “นายหน้า” ประกันชีวิต ที่ทำหน้าที่คัดเลือกกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีความเหมาะสมกับเรามาให้ ผมจึงอยากจะให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณา “ตัวแทน” หรือ “นายหน้า” ประกันชีวิตของท่านก่อน ว่าเหมาะสมที่จะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อแม่ชักให้ท่านหรือไม่ โดยมีข้อสังเกตในการพิจารณาง่ายๆ ดังนี้
ข้อแรก มีความรู้และความสามารถ เนื่องจากตัวแทนที่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ จะสามารถช่วยเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสมให้กับท่านได้ โดยการวิเคราะห์จากข้อมูลต่างๆ ที่ท่านให้ไป แล้วหลังจากนั้นก็จะคัดเลือกกรมธรรม์แบบต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของท่านมาให้ท่านพิจารณา
ข้อสอง มีความจริงใจ เพราะตัวแทนหลายคนมักจะนำเสนอกรมธรรม์ให้ท่าน โดยไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของท่านเลย เช่น เป็นแบบที่ไม่ตรงกับความต้องการ มีภาระการชำระเบี้ยที่มากเกิน จนกลายเป็นภาระที่หนักเกินไปของท่าน เป็นต้น หรือสรุปง่ายๆ ว่าตัวแทนที่ดีนั้นควรจะนำเสนอขายประกันชีวิตในแบบที่ท่านควรจะซื้อ ไม่ใช่เสนอขายในสิ่งที่เขาอยากขาย ส่วนตัวท่านเองก็ต้องพึงระลึกเสมอว่า ของฟรี และดีไม่มีในโลก ดังนั้นขอให้ท่านดูที่ความคุ้มครองของกรมธรรม์มากกว่าที่จะดูที่ส่วนลด หรือของแถมที่จะได้นะครับ
ข้อสาม การรักษาความลับ เพราะการทำประกันชีวิตท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนตัวแก่ตัวแทนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านรายได้ ประวัติสุขภาพ ประวัติครอบครัว เป็นต้น ดังนั้นเราต้องมีความเชื่อมั่นว่าตัวแทนคนดังกล่าวสามารถไว้วางใจได้ว่าจะรักษาข้อมูลความลับของท่านได้ และไม่นำข้อมูลของท่านไปเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น
หากท่านผู้อ่านได้พบเจอ “ตัวแทน” หรือ “นายหน้า” ประกันชีวิตที่ดีแล้ว ผมก็เชื่อว่าท่านผู้อ่านก็มีโอกาสเกินกว่า 70% ขึ้นไปแล้วที่จะได้คู่ที่ดีและเหมาะสมกับท่าน ส่วนอีก 30% ที่เหลือนั้น ก็เป็นสิ่งที่ท่านจะต้องใช้เวลาในการศึกษาเอง เปรียบเสมือนเวลาที่พ่อสื่อแม่ชักแนะนำให้ท่านได้รู้จักกันแล้ว ก็เป็นเรื่องของคนสองคนที่จะใช้เวลาศึกษากันก่อนที่จะตัดสินใจลงเอยและใช้ชีวิตร่วมกันต่อไป แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ