เทคนิคการเลือกทำประกันชีวิตให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกับคอลัมน์หน้าต่างประกันภัยที่จะมานำเสนอสาระความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการประกันภัย การวางแผนภาษี และการวางแผนทางการเงินให้กับท่านผู้อ่านทุกท่านเป็นประจำทุกสัปดาห์นะครับ เชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายท่านคงได้เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการทำประกันชีวิตกันมามากพอสมควรนะครับ เพราะการทำประกันชีวิตนอกจากจะช่วยให้ท่านผู้อ่านได้มีการออมเงินอย่างมีวินัยและต่อเนื่องแล้ว ยังจะเป็นการช่วยสร้างหลักประกันและความมั่นคงให้แก่ท่านผู้อ่านและครอบครัวอีกด้วย โดยในวันนี้ผมจะมาแนะนำเทคนิคในการเลือกทำประกันชีวิตอย่างไรจึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ เพียง 3 ข้อด้วยกันครับ

ข้อที่ 1 “ความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน”  โดยเคล็ดลับข้อแรกในการทำประกันชีวิตท่านผู้อ่านจะต้องแน่ใจว่ารายได้ของตัวเองนั้นเพียงพอที่จะสามารถจ่ายเบี้ยประกันภัยได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใด เพราะในการทำสัญญาประกันชีวิตโดยส่วนใหญ่จะเป็นการชำระค่าเบี้ยเป็นระยะยาว เช่น ชำระเบี้ย 5 ปี ความคุ้มครอง 12 ปี ซึ่งท่านผู้อ่านจะต้องมีการชำระเบี้ยประกันต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 5 ปีด้วยกัน โดยหากท่านไม่สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยได้ครบถ้วนอาจจะมีผลทำให้กรมธรรม์ประกันชีวิตของท่านขาดผลบังคับ ซึ่งจะทำให้ท่านไม่ได้รับความคุ้มครองตามที่ต้องการ หรืออาจจะสูญเสียเงินที่ได้นำส่งไปเป็นค่าเบี้ยประกันภัย ดังนั้นในการซื้อประกันชีวิตท่านผู้อ่านจะต้องมีการวางแผนและพิจารณาความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยของท่านเองให้เหมาะสมด้วย

ข้อที่ 2 “ความซื่อสัตย์ในการให้ข้อมูลสุขภาพ” เคล็ดลับข้อนี้นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการซื้อประกันชีวิตเลยนะครับ เพราะจะทำให้ท่านผู้อ่านได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ และไม่มีปัญหาในกรณีที่มีการเรียกร้องสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันชีวิต เพราะในการทำประกันชีวิตนั้นบริษัทประกันชีวิตจะเชื่อข้อมูลสุขภาพตามที่ผู้เอาประกันภัยแถลงในขณะที่ทำประกันในการพิจารณารับประกันภัย ซึ่งหากข้อความที่ผู้เอาประกันภัยแถลงนั้นไม่ถูกต้องหรือเป็นความเท็จ ก็อาจส่งผลทำให้สัญญาประกันชีวิตฉบับนั้นไม่สมบูรณ์ และท่านผู้อ่านอาจจะถูกปฎิเสธในการจ่ายเงินที่ท่านเรียกร้องเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นตามสัญญาได้ ดังนั้นในการทำประกันชีวิตท่านผู้อ่านจึงควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องตั้งแต่แรก เพื่อที่ท่านจะได้รับความคุ้มครองอย่างครบถ้วนถูกต้อง และตรงตามที่ท่านตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

ข้อที่ 3 “ความต้องการที่ได้รับจากการทำประกันชีวิต”  ในข้อนี้ท่านผู้อ่านจะต้องรู้ตัวเองว่าท่านต้องการซื้อความคุ้มครองประกันชีวิตเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ในแบบใด เช่น หากท่านเป็นผู้นำครอบครัวหรือเป็นคนหารายได้หลักให้กับครอบครัว แล้วท่านต้องการซื้อประกันชีวิตเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับคนในครอบครัวหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นกับตัวท่าน ท่านก็ควรเลือกซื้อประกันชีวิตแบบที่เน้นให้ความคุ้มครองกรณีการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพเป็นหลัก หรือหากในกรณีที่ท่านต้องการต้องการซื้อประกันเพื่อให้ผลประโยชน์กับตัวเองเพื่อให้มีผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินไว้ในธนาคาร ท่านก็อาจจะเลือกซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ที่มีผลตอบแทนและเงินคืนให้ท่านระหว่างที่ท่านมีชีวิตอยู่ หรือหากในกรณีที่ท่านต้องการเก็บออมเงินและมีการจ่ายเงินคืนให้ท่านเป็นประจำทุกเดือนเมื่อท่านเกษียณอายุ ท่านก็ควรจะเลือกซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญที่มีผลตอบแทนคืนให้ท่านเป็นประจำสม่ำเสมอเมื่อท่านมีอายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี เป็นต้นครับ

ท่านผู้อ่านทุกท่านลองนำเทคนิคในการเลือกทำประกันชีวิตที่ผมได้นำมาเสนอไปปรับใช้กันดูนะครับ เพื่อที่ท่านจะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดในการทำประกันชีวิต แล้วกลับมาพบกับสาระความรู้ดีๆ ทางคอลัมน์หน้าต่างประกันภัยได้ใหม่ในสัปดาห์หน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ