นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกรรมการ

 

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกรรมการ 

บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 

วันที่ปรับปรุงล่าสุด [22 มิถุนายน 2565]

บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ“เรา”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ จะปฏิบัติตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเมื่อมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ตามนิยามที่ระบุด้านล่าง) 

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”) ได้จัดทำขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่า ในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดจนการปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (ที่แก้ไขเพิ่มเติม) พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (ที่แก้ไขเพิ่มเติม) พระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 (ที่แก้ไขเพิ่มเติม) พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 (ที่แก้ไขเพิ่มเติม) เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านซึ่งเป็นกรรมการของบริษัท 

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้กับกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และการปฏิบัติตามกฎหมาย
ณ สถานที่ประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ผ่านทางเว็บไซต์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ อีเมล การยื่นสมัครงานด้วยตนเอง (Walk-in) ช่องทางไปรษณีย์ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ช่องทางติดต่อออนไลน์ ตลอดจนช่องทางอื่นใดของบริษัทฯ ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน 

บริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลง และ/หรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว โดยจะแจ้งท่านเพิ่มเติมหากมีการปรับปรุงที่สำคัญ บริษัทฯ จะระบุวันที่นโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ ที่ได้มีการปรับปรุงครั้งล่าสุดไว้ทางด้านบนของนโยบายความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ บริษัทฯ สนับสนุนให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อย่างระมัดระวัง และตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอเพื่อทบทวนการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่บริษัทฯ อาจดำเนินการตามข้อกำหนดในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ 

 

1.บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้าง

เพื่อวัตถุประสงค์ของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ตามที่ระบุด้านล่างนี้   

โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งทางตรงและทางอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่น เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงในระหว่างกระบวนการคัดเลือก การแต่งตั้ง หรือตลอดระยะเวลาที่ท่านดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของบริษัทฯ นอกจากนี้ เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทางอ้อม เช่น จากบริษัทในกลุ่ม BTS  บริษัทในเครือ บริษัทย่อย พันธมิตรทางธุรกิจของเราซึ่งเป็นบุคคลภายนอก บุคคลที่สามอื่น ๆ (เช่น บุคคลอ้างอิง) แหล่งข้อมูลสาธารณะ และเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก หรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวมนั้นขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของท่านที่มีกับบริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย บทบาทการเป็นกรรมการของท่าน หรือสิทธิประโยชน์ที่ท่านได้รับจากบริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย โดยตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมมีดังต่อไปนี้  

 

  1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด ลายมือชื่อ ภาพถ่าย วิดีโอภาพเคลื่อนไหว เลขทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประวัติการฝึกอบรม อาชีพ ตำแหน่ง สถานที่ทำงาน ใบรับรองวิชาชีพ ใบรับรองหลักสูตรอบรม สถานภาพการสมรส และ/หรือสถานภาพทางการทหาร  
  2. ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ทางไปรษณีย์ ที่อยู่ตามทะเบียน ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ของสถานที่ทำงาน แผนที่บ้าน/สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์ทางธุรกิจ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ไลน์ บัญชีเฟซบุ๊ค และ/หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ 
  3. ข้อมูลที่ระบุตัวตนที่ออกโดยหน่วยราชการ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ทะเบียนบ้าน ทะเบียนรถยนต์ ใบขับขี่ ใบอนุญาตทำงาน ใบมรณะบัตร หนังสือรับรองบริษัท เอกสารการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ประวัติการผ่านการเกณฑ์ทหาร เอกสารแสดงการผ่านการเกณฑ์ทหาร หนังสือตรวจลงตรา (VISA) และ/หรือใบตรวจคนเข้าเมือง 
  4. ข้อมูลการปฏิบัติงาน เช่น เลขประจำตัวพนักงาน ตำแหน่ง วันที่เริ่มงาน/สิ้นสุด ประวัติการทำงาน ผลการประเมินการดำเนินงาน ข้อมูลการปฏิบัติงานนอกสถานที่ (เช่น สถานที่ทำงานนอกบริษัท เวลา วันที่และสถานที่สำหรับการทำงานนอกบริษัท แผนการเดินทางเพื่อปฏิบัติงาน) บันทึกการทำงาน บันทึกทางวินัย ข้อมูลการโอนย้าย ข้อมูลการเลื่อนตำแหน่ง ประวัติการเข้างาน (Log book) (เช่น เวลาเข้าออกงาน) รายละเอียดการร้องเรียน ข้อมูลการดำเนินการคดี ประวัติการล้มละลาย ใบคำขอ/ยกเลิกนอกเหนือมาตรฐานสิทธิ และ/หรือแบบตรวจสอบคุณสมบัติกรรมการ 
  5. ข้อมูลทางการเงิน เช่น เช่น รายละเอียดการเปิดบัญชีกับธนาคาร สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เลขที่บัญชีธนาคารจำนวนเงิน หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต ข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลค่าใช้จ่าย เอกสารการเบิกจ่าย ผลตอบแทนปัจจุบัน เงินเดือน เบี้ยประชุม รายการเงินได้และเงินหักอื่น ๆ ข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่าย รายละเอียดตามแบบฟอร์มกู้เงิน เอกสาร/บันทึกการประชุมผู้ถือหุ้น สำเนาผู้ถือหุ้น หมายเลขทะเบียนผู้ถือหุ้น/ผู้ถือหลักทรัพย์ หมายเลขเลขทะเบียนบัญชีหลักทรัพย์ จำนวนหุ้น/หลักทรัพย์ และ/หรือจำนวนเงินปันผล  
  6. ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลตามเอกสารสัญญา หนังสือมอบอำนาจ และใบเสร็จ  ต่าง ๆ  
  7. ข้อมูลโปรไฟล์ เช่น บัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน และข้อมูลตามบัตร Rabbit 
  8. ข้อมูลทางเทคนิค เช่น เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP address) ข้อมูลที่อยู่การควบคุมการเข้าใช้งานสื่อกลาง (Media Access Control) ประวัติจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม 
  9. ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ข้อมูลอื่น ๆ ตามใบสมัครงาน ประวัติโดยย่อส่วนบุคคล (Resume) ขอบเขตของงาน (Terms of Reference: TOR) ข้อมูลจากการประมูลงาน ข้อมูลตามรายงานการมีส่วนได้เสีย และ/หรือรายละเอียดของโครงการวิศวกรรม 
  10. ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด โปรดดูรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทฯ ได้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด 
  11. ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน (เช่น ศาสนา) และ ข้อมูลสุขภาพ (เพื่อคัดกรองและควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาด เช่น COVID-19) 

 

หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นใดนอกจากตัวท่านเองแก่บริษัทฯ (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส บุตร บุคคลที่ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง หรือแขก) เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ ความสัมพันธ์ ข้อมูลติดต่อ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จะถือว่าท่านรับรองและรับประกันต่อบริษัทฯ ว่าท่านมีอำนาจในการกระทำเช่นนั้นโดย (1) ได้แจ้งให้บุคคลอื่นรายนั้นทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ (2) ได้รับความยินยอม (ในกรณีที่กฎหมายกำหนดหรือจำเป็น) เพื่อให้เราสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ 

บริษัทฯ ไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว”) อย่างไรก็ดี ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวดังกล่าวบนฐานความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ 

บริษัทฯ อาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยปราศจากความยินยอมของผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยปราศจากความยินยอมของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมาย (แล้วแต่กรณี) ในกรณีที่บริษัทฯ ทราบว่าบริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยปราศจากความยินยอมของผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยปราศจากความยินยอมของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมาย (แล้วแต่กรณี) โดยไม่ได้ตั้งใจ บริษัทฯ จะลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันที หรือจะเก็บรวบรวม และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเฉพาะกรณีที่บริษัทฯ สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นที่นอกเหนือจากความยินยอมได้ หรือตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น 

 

2.บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ใด

บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 

       2.1 วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอม 

บริษัทฯ อาจอาศัยความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนที่อ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน (เช่น ศาสนาที่ระบุบนบัตรประจำตัวประชาชน) เพื่อใช้ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนหรือเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการทํานิติกรรมสัญญาใด ๆ หรือพิสูจน์ยืนยันตัวตนสําหรับการมอบ/รับมอบอํานาจในการทํานิติกรรมสัญญาในนามบริษัทฯ  

ในกรณีที่เราอาศัยความยินยอมเป็นฐานทางกฎหมายสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมได้โดยการติดต่อบริษัทฯ (ตามรายละเอียดที่ระบุในข้อ 8. ของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้) ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวที่อาศัยความยินยอมของท่านที่เคยให้ไว้ก่อนการเพิกถอนนั้น อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่ให้ความยินยอมสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวหรือไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่านแก่เรา หรือได้เพิกถอนความยินยอมของท่านในภายหลัง เราอาจไม่สามารถตกลงว่าจ้างท่านหรือดำเนินการจ้างงานกับท่านหรือตามสัญญาบริการที่เราเข้าทำกับนายจ้างของท่านต่อไปได้ 

      2.2 วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ อาจอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 

บริษัทฯ อาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (2) ฐานความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ (3) ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอก ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการให้เกิดความสมดุลและได้สัดส่วนระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของท่าน รวมถึงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ (4) ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิตเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย (6) เพื่อการก่อตั้งและยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายในอนาคต และ/หรือ (7) เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการรายงานข้อมูลของกรรมการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต (แล้วแต่กรณี) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีระหว่างท่านกับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 

  1. เพื่อแต่งตั้งกรรมการ เช่น เพื่อการยืนยันตัวตนและตรวจสอบประวัติ การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของท่าน เพื่อการคัดเลือกและแต่งตั้ง เพื่อการเข้าทำสัญญาและปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา การจัดทำใบอนุญาตทำงานและเอกสารสำหรับการจ้างงาน และ/หรือการกำหนดเงินเดือน สวัสดิการและข้อมูลสัญญาพื้นฐานอื่น ๆ แก่ท่านในตำแหน่งกรรมการ  
  2. เพื่อการติดต่อสื่อสาร เช่น เช่น การติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวกับงานกิจกรรมของท่าน การจัดส่งเอกสาร และ/หรือเพื่อติดต่อบุคคลอ้างอิงของท่านในกรณีจำเป็นและฉุกเฉิน 
  3. เพื่อการบริหาร การจ่ายค่าตอบแทนและการให้สวัสดิการ เช่น เช่น เพื่อจ่ายเงินเดือน เบี้ยประชุม และเบิกจ่ายสวัสดิการ ค่าใช้จ่าย โบนัส ค่าชดเชย เงินทดแทน ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และด้านสุขภาพ และให้สิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ แก่ท่านและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การรักษาพยาบาล การทำประกันภัย ประกันสังคม การจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การมอบของรางวัล การเป็นสมาชิกฟิตเนส การจ่ายค่าอาหารผ่านบัตรพนักงาน สวัสดิการของสมาชิกสหกรณ์ การให้ทุนการศึกษา หรือสวัสดิการการรับฝากบุตรในช่วงเลิกเรียนและระหว่างปิดเทอม รวมถึงจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยและประกันชีวิต 
  4. เพื่อจัดให้มีการประชุมและฝึกอบรม เช่น การจัดการประชุมคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย การจัดปฐมนิเทศ การจัดฝึกอบรมและสัมนาทั้งภายในและภายนอกองค์กร ตลอดจนการอำนวยความสะดวกในการจัดงานและประเมินผลการอบรมและความพึงพอใจของผู้เข้าอบรม 
  5. เพื่อการดำเนินการของบริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ และบริษัทย่อย เช่น เพื่อดูแลจัดการการดำเนินงานภายในบริษัทฯ รวมถึงทรัพย์สินของบริษัทฯ เพื่อบริหารจัดการงานให้บริการ เพื่อการติดต่อสื่อสารกับบริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ บริษัทย่อย และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ยกเลิก หรือมอบอำนาจให้ท่านดำเนินการทำธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ บริษัทย่อย และพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งรวมไปถึงการนำชื่อและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไประบุในสัญญาที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการดังกล่าว และเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทฯ กำหนดตามสมควรที่เกี่ยวข้องหรือที่ระบุในสัญญาจ้าง เพื่อใช้เป็นเอกสารหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ เพื่อการประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจเรื่องการลงทุนและการจัดหาเงินทุน เพื่อใช้เป็นหลักฐานและข้อมูลอ้างอิง และ/หรือเพื่อจัดทำและเก็บรักษาเอกสารสำคัญของบริษัทฯ   
  6. เพื่อการปฏิบัติตามความรับผิดชอบด้านการเงินขององค์กร ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดด้านการตรวจสอบบัญชีและการบัญชี (ทั้งภายในและภายนอก) เช่น การคาดการณ์และการวางงบประมาณ และการวิเคราะห์และควบคุมต้นทุน/งบประมาณ เช่น เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการเปิดบัญชี ปิดงบบัญชี กู้ยืมเงินและจัดหาเงินทุนของบริษัทฯ เพื่อประมวลผลเงินเดือนและรายได้อื่น ๆ เพื่อดำเนินการทางภาษี (เช่น การหักภาษีเงินได้) และการทำเรื่องเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การสั่งจ่าย และเพื่อออกบิลติดตามหนี้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการลงบัญชีและเอกสารประกอบการจ่ายเงิน และ/หรือเพื่อจัดทำบัญชี งบดุล และรายการสรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบริษัทฯ หรือบริษัทในกลุ่ม BTS 
  7. เพื่อบริหารจัดการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น เพื่อการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดระบบติดต่อสื่อสาร ระบบความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อใช้ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและการเข้าใช้งานระบบและการตรวจสอบความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการภายในด้านธุรกิจตามข้อปฏิบัติภายในนโยบายและกระบวนการต่าง ๆ และเพื่อแก้ไขและอัพเดตข้อมูลบนฐานข้อมูลต่าง ๆ 
  8. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและคำสั่งของหน่วยงานรัฐ เช่น ในกรณีที่บริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย มีเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง หรือต้องให้ความร่วมมือดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กระบวนพิจารณา หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานรัฐภายนอกประเทศไทย และ/หรือให้ความร่วมมือกับศาล ผู้กำกับดูแล หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย โดยบริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของรัฐดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนภายใน หรือการป้องกันอาชญากรรม การฉ้อโกง และ/หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย 
  9. เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม BTS เช่น เพื่อรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ บริษัทย่อย หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อใช้สิทธิและปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ บริษัทย่อย หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เมื่อจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกัน และดำเนินการเกี่ยวกับการทุจริตใด ๆ การฉ้อโกง ข้อร้องเรียนเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดกฎหมาย เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของการดำเนินงานภายในองค์กร เพื่อตรวจจับและป้องกันการกระทำผิดภายในสถานที่ของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม BTS และเพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ นโยบาย ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ บริษัทย่อย หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อตรวจจับและป้องกันการประพฤติที่มิชอบภายในองค์กร เพื่อติดตามเฝ้าระวังเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและรายงานความผิดทางอาญา และเพื่อปกป้องความมั่นคงและและความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ และบริษัทย่อย 
  10. เพื่อการโอนหรือควบรวมกิจการขององค์กร ในกรณีที่มีการขาย โอน ควบรวม ปรับโครงสร้างองค์กร หรือเหตุการณ์อื่นใดในทำนองเดียวกัน บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกอื่น ๆ ไม่ว่าจะรายเดียวหรือหลายราย อันเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรมนั้น 
  11. เพื่อบริหารจัดการเสี่ยง เช่น เพื่อการบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบการดําเนินงาน และการประเมินความเสี่ยงขององค์กร และ/หรือ  
  12. เพื่อรักษาความปลอดภัย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือทรัพย์สิน หรือเพื่อการควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาด และการดำเนินการกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน  

ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน หากบริษัทฯ ไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ร้องขอ บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้นได้  

 

3. บริษัทฯ เปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลหรือหน่วยงานใด

บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศให้บุคคลภายนอกบุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้ ซึ่งจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ บุคคลที่สามภายนอกเหล่านี้ดังกล่าวอาจอยู่ในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ ท่านสามารถดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามภายนอกดังกล่าวเพื่อจะได้ทราบเพิ่มเติมว่าบุคคลที่สามดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร เนื่องจากท่านจะอยู่ใต้บังคับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกบุคคลที่สามเหล่านั้นด้วย 

     3.1 บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ และบริษัทย่อย 

ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นบริษัทในกลุ่ม BTS ซึ่งบริษัททั้งหมด รวมถึงบริษัทในเครือ และบริษัทย่อยทั้งหลายอาจต้องทำงานร่วมกัน เช่น บริษัทฯ บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ และบริษัทย่อยอาจมีการใช้ระบบบางส่วนร่วมกัน อาทิ ระบบการให้บริการและ/หรือฐานข้อมูล บริษัทฯ จึงอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัทอื่นในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย หรืออาจอนุญาตให้บริษัทในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย ดังกล่าวเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ทั้งนี้ บริษัทอื่นในกลุ่ม BTS บริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย สามารถอาศัยความยินยอมที่บริษัทฯ ได้รับมาจากท่านได้ด้วยเช่นกัน โปรดดูรายชื่อบริษัทในกลุ่ม BTS ได้ที่ลิงก์นี้ 

    3.2 ผู้ให้บริการของบริษัทฯ 

บริษัทฯ อาจว่าจ้างบริษัทอื่น ตัวแทน หรือผู้รับจ้างในการให้บริการในนามของบริษัทฯ หรืออำนวยความสะดวกในการให้บริการ โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง บุคคลดังต่อไปนี้ (1) บริษัทประสานงานและจัดทำเอกสารการจ้างงานพนักงานต่างชาติ (2) ผู้ให้บริการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน (3) ผู้ให้บริการบริหารระบบการจัดทำและจ่ายเงินเดือนพนักงาน (4) บริษัทจัดการกองทุนที่บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (5) ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟท์แวร์ ผู้พัฒนาอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ และผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (6) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (Cloud) (7) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ และ/หรือทำลายเอกสาร (8) ผู้ให้บริการจัดเก็บสินค้า และโลจิสติกส์ (9) ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว/ บริษัทนำเที่ยว (10) ผู้ให้บริการรับจัดงาน (Event organizer) (11) หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit rating agency) (12) บริษัทพิมพ์ซองหรือโรงพิมพ์ (13) ผู้ให้บริการระบบลงทะเบียนและนับคะแนนเสียง (14) ผู้จัดทำเครื่องแบบพนักงาน (15) ผู้ผลิตบัตร (16) สถาบันจัดอบรมและ/หรือ (17) หน่วยงานรับจ้างตรวจการปฏิบัติตามมาตรฐาน   

ทั้งนี้ ในการให้บริการต่าง ๆ ดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการของบริษัทฯ เหล่านั้น เพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการดังกล่าวเท่านั้น และจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นแต่อย่างใด ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการที่บริษัทฯ ทำงานด้วยทั้งหมดมีหน้าที่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างปลอดภัย 

   3.3 พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ 

บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อดำเนินธุรกิจและให้บริการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง หน่วยงานเจ้าของโครงการ สถาบันการเงินหรือธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ บริษัทคู่ค้า บริษัทที่เข้าไปลงทุน บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล หน่วยงาน/สถาบันจัดอบรม โรงแรม ตราบเท่าที่พันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะที่สอดคล้องกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้   

   3.4 บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนดไว้ 

ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผย หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับ โดยบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กรมสรรพากร กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมการกงสุล กรมบังคับคดี กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมควบคุมโรค กรมที่ดิน สำนักงานเขต สำนักงานประกันสังคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ตำรวจ สถานฑูต สถานกงสุล หน่วยงานรัฐที่ร้องขอข้อมูลพนักงาน ผู้บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลภายนอกรายอื่นที่บริษัทฯ เห็นว่าจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามระเบียบข้อบังคับ หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิของบริษัทฯ สิทธิของบุคคลภายนอก ความปลอดภัยส่วนตัวของบุคคล หรือเพื่อตรวจหา ป้องกัน หรือจัดการกับการฉ้อโกง หรือเพื่อการดำเนินการด้านความมั่นคงปลอดภัย 

   3.5 ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ 

บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ โดยอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ที่ปรึกษาอิสระ ที่ปรึกษาโครงการ หรือที่ปรึกษาทางการเงิน (2) ที่ปรึกษากฎหมายซึ่งให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และให้บริการดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้คดีหรือฟ้องร้องคดี และ/หรือ    (3) ผู้สอบบัญชีซึ่งให้บริการด้านบัญชี หรือตรวจสอบบัญชีแก่บริษัทฯ 

   3.6 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโอนกิจการ 

ในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร ฟื้นฟูกิจการ ควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด การซื้อขาย กิจการร่วมค้า การโอนสิทธิ การโอนหรือจำหน่ายธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้นบางส่วนหรือทั้งหมดของบริษัทฯ หรือธุรกรรมอื่นใดในทำนองเดียวกัน บริษัทฯ อาจมีการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจ นักลงทุน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้โอน หรือผู้รับโอน ในกรณีที่เหตุดังกล่าวขึ้น บริษัทฯ จะดำเนินการให้บุคคลภายนอกในฐานะผู้รับโอนสิทธิมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 

   3.7 บุคคลภายนอกอื่น ๆ 

บริษัทฯ อาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานทางกฎหมายตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ให้แก่บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยรายอื่น ๆ  ผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต ผู้บริหารงานขาย ผู้บริหารงานขายสูงสุด ผู้ซื้อหรือผู้ใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้มุ่งหวัง ผู้เอาประกัน ผู้ถือกรมธรรม์ ผู้ชำระเบี้ย ผู้รับผลประโยชน์ ผู้รับโอนสิทธิ ผู้มีส่วนได้เสีย ผู้ลงทุน ผู้ร้องเรียนหรือบุคคลภายนอกที่ร้องขอดูข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และ/หรือบุคคลทั่วไป เป็นต้น แล้วแต่กรณี 

 

4.การโอนข้อมูลส่วนบุคคลชองท่านไปยังต่างประเทศ

บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางอาจมีหรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง  ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการพัฒนาระบบและดูแลระบบ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (Cloud) ธนาคาร/สถาบันการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ตัวแทนและผู้จำหน่าย บริษัทที่ปรึกษา กรณีการส่งข้อมูลให้ลูกค้าที่อยู่ในต่างประเทศ คู่ค้าหรือพันธมิตรที่อยู่ในต่างประเทศ โรงแรม หน่วยงานจัดอบรม สถานทูต และ/หรือสถานกงสุล ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดำเนินไปอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นชอบด้วยกฎหมายตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น 

 

5.บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานเท่าใด

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามสมควร เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลมาและเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานขึ้นตามที่กฎหมายกำหนด 

 

6.มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย

เพื่อเป็นวิธีในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เปลี่ยนแปลง แก้ไข ใช้ เปิดเผย หรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ และบริหารจัดการการเข้าถึงเพื่อจำกัดการถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะผู้มีสิทธิเท่านั้น และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งานเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังรวมถึงการวางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 

 

   7. สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนดังต่อไปนี้ 

  1. การเข้าถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ อาจขอให้มีการพิสูจน์ตัวตนก่อนจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ร้องขอ   
  2. การแก้ไขให้ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผย สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน  
  3. การโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่บริษัทฯ มีเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้กับบริษัทฯ และ (ข) กรณีที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทฯ มีกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล     
  4. การคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด  
  5. การระงับการใช้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตน หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่ถูกต้อง การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดย
    บริษัทฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมดความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์บางประการ 
  6. การถอนความยินยอม สำหรับวัตถุประสงค์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้  
  7. การลบหรือทำลาย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผย เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เว้นเสียแต่ว่า การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของบริษัทฯ นั้นไม่เป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อการใช้ หรือการปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และ  
  8. การร้องเรียน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้  

8. รายละเอียดการติดต่อของบริษัทฯ

หากเจ้าของข้อมูลมีความประสงค์จะติดต่อบริษัทฯ เพื่อใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ที่ 

  1. บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 

ที่อยู่ 175 อาคารสาธรซิตี้ ทาวเวอร์ ชั้น 1/1 และ 2/1 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 

เบอร์โทรศัพท์ 02-648-3600 เวลาทำการ 08.00-17.00 น. 

เว็ปไซต์ www.rabbitlife.co.th หรือ อีเมล [email protected] 

  1. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ที่อยู่ 175 อาคารสาธรซิตี้ ทาวเวอร์ ชั้น 1/1 และ 2/1 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 

เบอร์โทรศัพท์ 02-648-3600 เวลาทำการ 08.00-17.00 น. 

เว็ปไซต์ www.rabbitlife.co.th อีเมล  [email protected]